แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อโจทก์มีคำขอให้เพิ่มโทษในกรณีที่จำเลยได้กระทำความผิดคดีนี้ภายในเวลาห้าปี นับแต่วันพ้นโทษในคดีก่อน ข้อเท็จจริงจะต้องรับฟังได้ว่าจำเลยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีก่อนและได้พ้นโทษมาเมื่อวันใดด้วย เนื่องจากโจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดคดีนี้เป็นระยะเวลาเกินกว่าห้าปีนับแต่วันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยต้องโทษจำคุกครบ 1 ปี 6 เดือน ในคดีก่อนหรือไม่ จึงยังไม่แน่ชัดว่าจำเลยกระทำความผิดในคดีนี้ภายในห้าปีนับแต่วันพ้นโทษคดีก่อนตามฟ้อง ทั้งในชั้นพิจารณาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง จำเลยให้การรับแค่ว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษ โดยไม่ได้รับว่าภายในเวลาห้าปีนับแต่วันพ้นโทษได้กลับมากระทำความผิดในคดีนี้อีก ซึ่งโจทก์ก็ไม่ได้นำสืบพยานหลักฐานในส่วนนี้ ข้อเท็จจริงจึงไม่พอให้รับฟังได้ว่ามีเหตุให้เพิ่มโทษจำเลยได้ตาม ป.อ. มาตรา 92
ย่อยาว
บรรดาคำฟ้อง คำให้การ รวมทั้งรายการต่าง ๆ ที่ปรากฏในคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของคำพิพากษานี้
โจทก์อุทธรณ์
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่โจทก์และจำเลยไม่โต้แย้งกันในชั้นอุทธรณ์รับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2557 เวลาประมาณ 18.45 นาฬิกา จำเลยได้เสนอจำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าโทรศัพท์ 1 เครื่อง ที่มีตราเครื่องหมาย (ซัมซุง) อันเป็นเครื่องหมายการค้าที่มีผู้ทำเลียนเครื่องหมายการค้า(ซัมซุง) ของบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ โค., แอลทีดี จำกัด ผู้เสียหาย เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นเครื่องหมายการค้าที่แท้จริงของผู้เสียหายซึ่งได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้โดยชอบกับสินค้าโทรศัพท์แล้ว โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นสินค้าที่มีการทำเลียนเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของผู้เสียหายดังกล่าว เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมยึดสินค้าดังกล่าวเป็นของกลาง เหตุเกิดที่แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน ในความผิดฐานรับของโจร ตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ 343/2551 หมายเลขแดงที่ 387/2551 ของศาลทหารกรุงเทพ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2551 ที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษ
มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า มีเหตุให้เพิ่มโทษและไม่รอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยหรือไม่ เห็นว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 บัญญัติว่า “ผู้ใดต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก ถ้าและได้กระทำความผิดใด ๆ อีกในระหว่างที่ยังจะต้องรับโทษอยู่ก็ดี ภายในเวลาห้าปีนับแต่วันพ้นโทษก็ดี หากศาลจะพิพากษาลงโทษครั้งหลังถึงจำคุก ก็ให้เพิ่มโทษที่จะลงแก่ผู้นั้นหนึ่งในสามของโทษที่ศาลกำหนดสำหรับความผิดครั้งหลัง” เมื่อโจทก์มีคำขอให้เพิ่มโทษในกรณีที่จำเลยได้กระทำความผิดคดีนี้ภายในเวลาห้าปีนับแต่วันพ้นโทษในคดีหมายเลขแดงที่ 387/2551 ของศาลทหารกรุงเทพ ข้อเท็จจริงจะต้องรับฟังได้ว่าจำเลยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีก่อนและได้พ้นโทษมาเมื่อวันใดด้วย เนื่องจากโจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดคดีนี้เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2557 เป็นระยะเวลาเกินกว่าห้าปีนับแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2551 ซึ่งเป็นวันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุด โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยต้องโทษจำคุกครบ 1 ปี 6 เดือน ในคดีก่อนหรือไม่ จึงยังไม่แน่ชัดว่าจำเลยกระทำความผิดในคดีนี้ภายในห้าปีนับแต่วันพ้นโทษคดีก่อนตามฟ้อง ทั้งในชั้นพิจารณาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง จำเลยให้การรับแค่เป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษ โดยไม่ได้รับว่าภายในเวลาห้าปีนับแต่วันพ้นโทษได้กลับมากระทำความผิดในคดีนี้อีก ซึ่งโจทก์ก็ไม่ได้นำสืบพยานหลักฐานในส่วนนี้ ข้อเท็จจริงจึงไม่พอให้รับฟังได้ว่ามีเหตุให้เพิ่มโทษจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางไม่เพิ่มโทษจำเลยนั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วยในผล แต่อย่างไรก็ดี สินค้าโทรศัพท์ของกลางที่เลียนเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของผู้เสียหายมีเพียง 1 เครื่อง โทษที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางลงโทษจำเลยก่อนลดโทษกึ่งหนึ่ง โดยจำคุกจำเลย 1 เดือน และปรับ 5,000 บาท นั้นหนักเกินไป เห็นสมควรกำหนดโทษจำเลยใหม่ให้เหมาะสมกับพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดของจำเลย โดยให้ลงโทษปรับ 5,000 บาท ที่โจทก์อุทธรณ์ไม่ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยนั้น เห็นว่า เมื่อศาลลงโทษปรับจำเลยสถานเดียวไม่ได้ลงโทษจำคุกจำเลยจึงไม่เข้าเงื่อนไขที่ไม่รอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ลงโทษปรับจำเลย 5,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ 2,500 บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง