คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 145/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เข้าทำสัญญาค้ำประกันไว้ต่อศาล ยอมรับผิดใช้เงินให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาหากบังคับจากจำเลยไม่ได้ ทั้งนี้เพื่อให้ศาลทุเลาการบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นไว้ในระหว่างอุทธรณ์นั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยแพ้คดี ศาลย่อมมีอำนาจออกคำบังคับให้ผู้ค้ำประกันปฏิบัติการชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ ผู้ค้ำประกันจะเถียงว่าโจทก์มิได้บังคับชำระหนี้เสียภายในหนึ่งปีนับแต่วันจำเลยตายและจะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 มาใช้แก่กรณีนี้ก็ไม่ได้ เพราะโจทก์มิใช่คู่สัญญากับผู้ค้ำประกัน แต่เป็นเรื่องระหว่างผู้ค้ำประกันกับศาล

ย่อยาว

ศาลแพ่งพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 6,865 บาทกับดอกเบี้ยแก่โจทก์จำเลยอุทธรณ์และขอทุเลาการบังคับคดีระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งให้หาผู้ค้ำประกันคุณหญิงระเบียบ สุนทรลิขิต ได้เข้าทำสัญญาประกันตามคำสั่งศาล และศาลสั่งให้ทุเลาการบังคับคดีไว้ระหว่างอุทธรณ์ ต่อมาจำเลยตาย ศาลมีคำสั่งให้นางดีเลิศกับพวกเข้าเป็นจำเลยแทน แล้วอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟังโดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

บัดนี้ศาลแพ่งได้มีคำบังคับให้คุณหญิงระเบียบ สุนทรลิขิตในฐานะผู้ค้ำประกันจำเลยปฏิบัติการชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามคำขอของโจทก์

คุณหญิงระเบียบคัดค้านว่าไม่ต้องรับผิด แต่ศาลแพ่งยกคำคัดค้านเสีย

คุณหญิงระเบียบฯ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ตามคำสั่งศาลแพ่ง

คุณหญิงระเบียบฯ ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า สัญญาประกันดังกล่าวเป็นสัญญาที่คุณหญิงระเบียบฯ ทำไว้ต่อศาลยอมรับผิดใช้เงินให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาหากบังคับจากจำเลยไม่ได้ ทั้งนี้เพื่อให้ศาลทุเลาการบังคับคดีไว้ระหว่างอุทธรณ์ เป็นเรื่องระหว่างศาลกับคุณหญิงระเบียบฯ โจทก์ไม่ใช่คู่สัญญาด้วย จะนำมาตรา 1754 มาใช้บังคับแก่กรณีนี้ไม่ได้เพราะโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องอันใดอันจะพึงต้องฟ้องร้องเอาแก่เจ้ามรดกอีก จึงพิพากษายืน

Share