แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เข้าทำสัญญาค้ำประกันไว้ต่อศาล ยอมรับใช้เงินให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษา หากบังคับจากจำเลยไม่ได้ ทั้งนี้เพื่อให้ศาลทุเลาการบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นไว้ในระหว่างอุทธรณ์นั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยแพ้คดี ศาลย่อมมีอำนาจออกคำบังคับให้ผู้ค้ำประกันปฎิบัติการชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ ผู้ค้ำประกันจะเถียงว่าโจทก์ได้บังคับชำระหนี้เสียภายในหนึ่งปี นับแต่วันจำเลยตายและจะนำ ป.พ.พ.ม.1754 มาใช้แก่กรณีก็ไม่ได้ เพราะโจทก์มิใช่คู่สัญญากับผู้ค้ำประกัน แต่เป็นเรื่องระหว่างผู้ค้ำประกันกับศาล
ย่อยาว
ศาลแพ่งพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน ๖๘๖๕ บาท กับดอกเบี้ยแก่โจทก์ จำเลยอุทธรณ์และขอทุเลาการบังคับคดีระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งให้หาผู้ค้ำประกัน คุณหญิงระเบียบสุนทรลิขิต ได้เข้าทำสัญญาประกันตามคำสั่งศาล และศาลสั่งให้ทุเลาการบังคับคดีไว้ระหว่างอุทธรณ์ ต่อมาจำเลยตาย ศาลมีคำสั่งให้นางดีเลิศกับพวก เข้าเป็นจำเลยแทน แล้วอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟัง โดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
บัดนี้ศาลแพ่งได้มีคำบังคับให้คุณหญิงระเบียบสุนทรลิขิตในฐานะผู้ค้ำประกันจำเลยปฎิบัติการชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามคำขอของโจทก์
คุณหญิงระเบียบคัดค้านว่าไม่ต้องรับผิด แต่ศาลแพ่งยกคำคัดค้านเสีย
คุณหญิงระเบียบฯ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ตามคำสั่งศาลแพ่ง
คุณหญิงระเบียบฯ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า สัญญาประกันดังกล่าวเป็นสัญญาที่คุณหญิงระเบียบฯ ทำไว้ต่อศาลยอมรับผิดใช้เงินให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษา หากบังคับจากจำเลยไม่ได้ ทั้งนี้เพื่อให้ศาลทุเลาการบังคับคดีไว้ ระหว่างอุทธรณ์ เป็นเรื่องระหว่างศาลกับคุณหญิงระเบียบฯ โจทก์ไม่ใช่คู่สัญญาด้วย จะนำมาตรา ๑๗๕๔ มาใช้บังคับแก่กรณีนี้ไม่ได้ เพราะโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องอันใดอันจะพึงต้องฟ้องร้องเอาแก่เจ้ามฤดกอีก จึงพิพากษายืน