แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องว่าจำเลยวิวาททำร้ายร่างกายกันบาดเจ็บ แต่มิได้กล่าวว่าจำเลยคนใดทำร้ายจำเลยคนไหนบาดเจ็บอย่างใดแล้ว จะลงโทษจำเลยคนใดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสมิได้ ในคดีที่ศาลรวมพิจารณาคดีที่ศาลรวมพิจารณาคดีที่อัยการเป็นโจทย์กัน จะนำคำพะยานในสำนวนเจ้าทุกข์เป็นโจทย์ แต่อัยการมิได้อ้างเป็นพะยานด้วยมาใช้ยันจำเลยในคดีของอัยการ
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องว่านายหมุน นายไข่นุ้ยจำเลยฝ่ายหนึ่ง นายรุ่งจำเลยฝ่ายหนึ่งวิวาททำร้ายร่างกายกันจนนายหมุน นายรุ่งมีบาดแผลสาหัส และนายรุ่งจำเลยได้เป็นโจทย์ฟ้องนายหมุน นายไข่นุ้ยหาว่าทำร้ายร่ายกายตนสาหัสอีกสำนวนหนึ่งศาลรวมพิจารณา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าโจทย์มิได้กล่าวจำเลยคนใดทำร้ายร่างกายใคร โจทย์ฟ้องเป็นเรื่องวิวาทตาม มาตรา 258 อัยการโจทย์สืบว่านายไข่นุ้ยจำเลยไม่ได้วิวาทด้วย จึงเป็นอันไม่สมฟ้อง ขาดองค์แห่ง มาตรา 258 นั้น และจะเอาพะยานในคดีนายรุ่งเป็นโจทย์มาลงโทษในคดีของอัยการไม่ได้ และเห็นฟ้องด้วยศาลชั้นต้นว่านายรุ่งไม่มีอำนาจเป็นโจทย์ฟ้อง จึงพิพากษาให้ยกฟ้องปล่อยจำเลยไป
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าพะยานในสำนวนนายรุ่งเป็นโจทย์นั้น อัยการโจทย์มิได้อ้างเป็นพะยานด้วย แม้ศาลจะพิจารณารวมกันก็เป็นคนละคดีจะนำมาใช้ยันจำเลยในคดีอัยการมิได้ ส่วน มาตรา 258 ตอนท้ายก็นำมาใช้ในคดีนี้มิได้ เมื่อโจทย์มิได้ปรากฏตัวผู้ทำร้าย ศาลจึงลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายดังฎีกาโจทย์มิได้พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์