แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรฐานใดฐานหนึ่ง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ทุกข้อหา โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ในข้อหาลักทรัพย์ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา โดยโจทก์มิได้ฎีกา กรณีจึงต้องถือว่า ข้อหาความผิดฐานรับของโจรยุติไปแล้วตั้งแต่ศาลอุทธรณ์ในชั้นฎีกาคดีคงมีปัญหาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 กระทำผิดฐานลักทรัพย์โจทก์หรือไม่เท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร โค 2 ตัวของผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 335, 357 ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ทุกข้อหา
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสาม
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 มีความผิดฐานลักทรัพย์ให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหาย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรฐานใดฐานหนึ่ง ปรากฏว่าศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ทุกข้อหา โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ที่ 2ในข้อหาฐานลักทรัพย์ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาโดยโจทก์มิได้ฎีกา กรณีจึงต้องถือว่าข้อหาความผิดฐานรับของโจรตามฟ้องยุติไปแล้วตั้งแต่ศาลอุทธรณ์ ในชั้นนี้คดีคงมีปัญหาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 กระทำผิดฐานลักทรัพย์ตามฟ้องโจทก์หรือไม่ซึ่งศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ฟังลงโทษจำเลยที่ 1ที่ 2 ในข้อหาลักทรัพย์ไม่ได้
พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ที่ 2 ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์