แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า นางกระแสร์สุดลาภา จำเลยร่วม ถึงแก่ความตายผู้ร้องซึ่งเป็นสามีและผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่ผู้ตายต่อไป สำหรับทายาทอื่นไม่มีผู้ใดสมัครใจเข้าเป็นคู่ความแทน โปรดอนุญาต
หมายเหตุ ทนายโจทก์และจำเลยต่างได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 132 แผ่นที่ 6 และแผ่นที่ 8)
ระหว่างพิจารณา นางกระแสร์สุดลาภา ขอเข้าเป็นจำเลยร่วมศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองโอนที่ดินโฉนดเลขที่321 แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ให้แก่โจทก์1 ใน 6 ส่วน หากโอนให้ไม่ได้ให้นำทรัพย์พิพาทดังกล่าวออกขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งกันตามส่วน ในกรณีมีการแบ่งเงิน ให้จำเลยทั้งสองชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในจำนวนเงินที่ค้างชำระนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยฎีกา (อันดับ 94)
ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ศาลฎีกาจดรายงานกระบวนพิจารณาว่า คดีนี้ปรากฏตามคำแถลงของทนายจำเลยร่วมลงวันที่8 กรกฎาคม 2526 ว่านางกระแสร์สุดลาภา จำเลยร่วมได้มรณะเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2525 ศาลแพ่งมีคำสั่งว่า สำเนาให้โจทก์แต่ยังไม่ได้ดำเนินการอย่างใด จึงให้ศาลแพ่งดำเนินกระบวนพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42 แล้วส่งสำนวนคืนศาลฎีกาเพื่อพิเคราะห์และมีคำสั่งต่อไป
ศาลฎีกาส่งรายงานกระบวนพิจารณาดังกล่าวพร้อมสำนวนไปศาลชั้นต้นเพื่อดำเนินการแล้ว
ศาลชั้นต้นนัดพร้อมและนัดฟังคำสั่งศาลฎีกา
วันนัดพร้อมและนัดฟังคำสั่งศาลฎีกา ทนายจำเลยร่วมมาศาลส่วนโจทก์และจำเลยไม่มาเพราะยังไม่ทราบนัด ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งศาลฎีกาให้ทนายจำเลยร่วมฟัง ทนายจำเลยร่วมแถลงว่าศาลได้มีคำสั่งตั้งตนซึ่งเป็นสามีจำเลยร่วมเป็นผู้จัดการมรดกของจำเลยร่วมแล้วและจะยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยร่วมต่อไป ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เลื่อนไปนัดพร้อมเพื่อสอบถามและนัดฟังคำสั่งศาลฎีกา
ก่อนถึงวันนัดพร้อมและนัดฟังคำสั่งศาลฎีกาครั้งที่สอง ผู้ร้องยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 131)
วันนัดพร้อมและนัดฟังคำสั่งศาลฎีกาครั้งที่สอง ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งศาลฎีกาตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2529ให้ทนายโจทก์และทนายจำเลยฟัง ทนายโจทก์และทนายจำเลยรับว่าผู้ขอรับมรดกความเป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายและเป็นผู้จัดการมรดกของนางกระแสร์สุดลาภา จำเลยร่วมจริงทนายโจทก์แถลงว่า ไม่ต้องไต่สวนผู้ขอรับมรดกความต่อไป ส่วนทนายจำเลยแถลงรับข้อเท็จจริงตามคำร้องของผู้ขอรับมรดกความ แต่อ้างปัญหาข้อกฎหมายว่า ทนายจำเลยร่วม (ผู้ร้อง) ร้องขอเกิน 1 ปีแล้วศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า สำคัญที่โจทก์ซึ่งเป็นคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง เมื่อฝ่ายโจทก์ยืนยันไม่คัดค้านและแถลงว่าไม่ต้องไต่สวนคำร้องของผู้ขอรับมรดกความ ก็ไม่จำเป็นต้องไต่สวน ให้งดการไต่สวน และมีคำสั่งให้รวบรวมถ้อยคำสำนวนส่งศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่งต่อไป (อันดับ 133)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้นายนิพนธ์สุดลาภา ผู้ร้องเข้าเป็นคู่ความแทนที่นางกระแสร์สุดลาภา จำเลยร่วมผู้มรณะได้ตามขอ