คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1446/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เสียหายรู้ตัวล่วงหน้าว่าจำเลยจะมายิงจึงย้ายจากห้องที่เคยนอนไปนอนที่ระเบียง จำเลยใช้ปืนแก๊ปยิงไปตรงที่ที่ผู้เสียหายเคยนอน กระสุนปืนจึงไม่ถูกผู้เสียหาย เช่นนี้ถือว่า ผู้เสียหายรู้ตัวและหลบไปโดยบังเอิญ อีกประการหนึ่งเมื่อผู้เสียหายยังคงอยู่ในเรือน กระสุนปืนก็อาจถูกผู้เสียหายได้ การกระทำของจำเลยจึงมิใช่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถบรรลุผลได้โดยแน่แท้ เพราะเหตุแห่งวัตถุที่มุ่งหมายกระทำต่อ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81 แต่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 29/2513)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายแต่ไม่ถูก ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าผู้เสียหายรู้ตัวล่วงหน้าว่าจำเลยจะมายิง จึงย้ายจากที่ที่เคยนอนไปนอนที่อื่น จำเลยจึงยิงไม่ถูก การกระทำของจำเลยไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๑ จำคุกจำเลย ๗ ปี ๖ เดือน จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๓ ปี ๙ เดือน
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่าการที่จำเลยยิงผู้เสียหายไม่ถูกเพราะผู้เสียหายรู้ตัวล่วงหน้าจึงย้ายจากห้องที่เคยนอนไปนอนที่ระเบียง ดังนี้ การกระทำของจำเลยมิใช่เป็นการไม่สามารถบรรลุผลโดยเด็ดขาดเพราะเหตุแห่งวัตถุที่มุ่งหมายกระทำต่อ การที่ผู้เสียหายหลบไปอยู่ที่อื่นนั้นเป็นเหตุบังเอิญ อีกประการหนึ่งผู้เสียหายก็คงอยู่บนเรือน จำเลยอาจยิงถูกผู้เสียหายได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการพยายามกระทำความผิดตามมาตรา ๘๐ มิใช่ตามมาตรา ๘๑ ประมวลกฎหมายอาญา
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ ให้จำคุกจำเลย ๑๐ ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามมาตรา ๗๘ คงเหลือโทษจำคุก ๕ ปี

Share