คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1445/2539

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ผู้ร้องเป็นผู้รับจำนองตึกแถวพิพาทไว้จากจำเลยชอบที่จะใช้สิทธิเพื่อให้ตนได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินนั้นก่อนเจ้าหนี้สามัญตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 289 วรรคแรก เท่านั้น แต่การที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่ตึกแถวพิพาทซึ่งจำเลยปลูกอยู่ใช้สิทธิบังคับคดีขับไล่จำเลยให้รื้อถอนตึกแถวดังกล่าวออกไปย่อมไม่มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นระหว่างโจทก์กับผู้ร้องหรือผู้ร้องเป็นบุคคลผู้มีส่วนได้เสียในวิธีการบังคับคดีอันเกี่ยวกับตึกแถวพิพาท ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอให้ถอนการยึดและระงับการรื้อถอนตึกแถวพิพาท

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นได้พิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยรื้อถอนตึกแถวเลขที่ 456/125 ถึง 456/144 รวม 20 คูหาพร้อมทั้งขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินโฉนดเลขที่ 41801ถึงโฉนดเลขที่ 41807 ของโจทก์ จำเลยไม่ปฎิบัติตามคำพิพากษาโจทก์ขอให้บังคับคดี
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า จำเลยได้จำนองตึกแถวพิพาทไว้แก่ผู้ร้องการที่โจทก์ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีให้จำเลยรื้อถอนตึกแถวพิพาท ทำให้ผู้ร้องได้รับความเสียหายอาจจะไม่ได้รับชำระหนี้ เป็นการโต้แย้งสิทธิของผู้ร้อง ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีถอนการยึดและมีคำสั่งระงับการรื้อถอนตึกแถวพิพาท
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ถ้าผู้ร้องมีสิทธิเหนือตึกแถวพิพาทอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่จะต้องไปว่ากล่าวเอาแก่โจทก์จำเลยหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ไม่มีเหตุที่จะขอให้ระงับการรื้อถอนตึกแถวพิพาทที่เจ้าพนักงานกำลังบังคับคดีอยู่ ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์พร้อมกับรื้อถอนตึกแถวพิพาทออกไปด้วย มิใช่กรณีที่เอาทรัพย์สินออกขายทอดตลาดหรือจำหน่ายโดยวิธีอื่น ผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขัดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่ผู้ร้องฎีกาต่อมาว่า โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ผู้ร้องรับจำนองเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริตและโต้แย้งสิทธิของผู้ร้องนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ร้องเป็นเพียงผู้รับจำนองตึกแถวพิพาทไว้จากจำเลยสิทธิของผู้รับจำนองหรือผู้ทรงบุริมสิทธินั้นเพียงชอบที่จะใช้สิทธิเพื่อให้ตนได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินนั้นก่อนเจ้าหนี้สามัญตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 วรรคแรก เท่านั้น แต่คดีนี้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่ตึกแถวพิพาทซึ่งจำนองผู้ร้องปลูกอยู่ใช้สิทธิบังคับคดีขับไล่จำเลยให้รื้อถอนตึกแถวดังกล่าวออกไปจากที่ดินของโจทก์ ผู้ร้องในฐานะผู้รับจำนองจึงไม่มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ระหว่างโจทก์กับผู้ร้องตามกฎหมายหรือเป็นบุคคลผู้มีส่วนได้เสียในวิธีการบังคับคดีอันเกี่ยวกับตึกแถวพิพาทอันเป็นทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีให้จำเลยรื้อถอนออกไปจากที่ดินของโจทก์ การที่ตึกแถวจำนองต้องถูกบังคับขับไล่ให้รื้อถอนออกไปก็เป็นเรื่องที่ผู้ร้องจะไปว่ากล่าวเอาแก่จำเลยต่างหากจากคดีนี้ เหตุผลตามฎีกาของผู้ร้องอื่น ๆไม่อาจเปลี่ยนแปลงคำสั่งและคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองได้เป็นฎีกาไม่เป็นสาระ ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องของผู้ร้องต้องกันมานั้น ชอบแล้ว ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share