คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การนำรถยนต์ไปบรรทุกไม้ซุงและไม้แปรรูปซึ่งหนักมากออกมาจากป่าในเวลากลางคืน ต้องผ่านทางที่คดโค้งและเทลง และข้างทางเป็นห้วยลึก ผู้ขับควรระมัดระวังให้มาก และก่อนที่จะนำรถไปใช้ในเส้นทางเช่นนี้ก็ควรตรวจดูสภาพของรถให้เรียบร้อยดีเสียก่อน ถ้าขับรถพุ่งลงห้วยข้างทางแล้วจะอ้างว่าเป็นเพราะเหตุสุดวิสัยเนื่องจากสภาพของทางหรือเพราะลูกหมากบังคับคันส่งอาจหลุด ยางระเบิดหรือไฟหน้ารถอาจดับกระทันหันหาได้ไม่ลูกจ้างของจำเลยขับรถตกห้วย ทำให้ตนเองกับบุตรของโจทก์ตาย โจทก์ฟ้องจำเลยผู้เป็นนายจ้างให้ใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีก็อยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างของคนขับรถจะต้องพิสูจน์ว่าไม่ต้องรับผิดเพราะเหตุใด (แม้โจทก์จะอ้างว่ารถตกห้วยเพราะคนขับขับเร็ว และศาลเห็นว่ายังฟังไม่ได้ก็ตาม)ผู้เยาว์มีเงินเดือนและแบ่งเงินเดือนส่งไปเลี้ยงดูโจทก์ผู้เป็นมารดา เมื่อลูกจ้างของจำเลยทำให้ผู้เยาว์ตาย โจทก์ก็เรียกร้องให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการที่ต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมายไปนั้นได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 443 วรรค 3 และ 1535 (ไม่ใช่ว่าเรียกร้องไม่ได้เพราะบิดามารดาต้องให้การอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์เสมอไปตามมาตรา 1545)การที่ศาลกำหนดค่าสินไหมทดแทนให้พอสมควรแก่ฐานะของโจทก์และของผู้ตายประกอบด้วยเหตุผลในคดีโดยทั่ว ๆ ไปนั้น เป็นการวินิจฉัยตามมาตรา 438 แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าห้างหุ้นส่วนสามัญ “สมนึกพานิช” เป็นนิติบุคคลทำการแปรรูปไม้เป็นการค้ามีรถยนต์ชนิดลากจูงเลข ล.พ. 00012 ซึ่งมีชื่อจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของ โดยนายชั้นเป็นลูกจ้างผู้ขับและนายดี เตชะสิทธิ์ บุตรโจทก์เป็นลูกจ้างทำหน้าที่คนท้ายรถ นายชั้นและนายดีได้กระทำการตามที่จ้าง เพื่อประโยชน์ของจำเลยผู้นั้นเป็นนายจ้าง โดยนำรถคันที่กล่าวไปชักจูงไม้ท่อนในป่ามาแปรรูปที่โรงเลื่อย นายชั้นได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อฝ่าฝืนข้อบังคับการจราจรโดยขับรถด้วยความเร็วสูง เมื่อถึงห้วยสามย่างซึ่งเป็นทางเทและคดโค้งก็ไม่ลดความเร็ว ทำให้รถพุ่งตกลงเหวข้างถนนพลิกคว่ำ เป็นเหตุให้นายชั้น นายดี กับนายคุดตาย การกระทำของนายชั้นผู้ขับซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ขาดผู้อุปการะเลี้ยงดูและสูญเสียบุตรอันเป็นที่รัก จำเลยในฐานะนายจ้างต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์
จำเลยให้การต่อสู้ว่า รถยนต์คันนั้นเป็นของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ได้ขายให้นายชั้นโดยการเช่าซื้อไปเด็ดขาดแล้ว ขณะรถตกเหว นายชั้น นายดี ไม่ได้ลูกจ้างจำเลยแล้วเพราะนายชั้นเช่าซื้อรถนั้นไปทำการเป็นส่วนตัว การที่รถตกเหวก็มิใช่เป็นการจงใจหรือประมาทของนายชั้นหรือผู้ใด แต่เกิดขึ้นเพราะอุบัติเหตุ เกิดเหตุกลางคืน ทางโค้งเทลง สภาพของรถอาจจะเก่า อาจตกเหวได้เพราะหลายเหตุ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด นายดีไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูโจทก์และโจทก์เรียกสูงไป ค่าเสียหายทางจิตใจเรียกไม่ได้จำเลยเป็นผู้จัดการศพ ทั้งโจทก์ได้รับเอาเงินค่าทำศพไปจากจำเลยที่ 2 แล้ว 200 บาท โดยรับว่าจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ อีก นายดีเป็นผู้เยาว์ ไม่มีหน้าที่ที่จะอุปการะเลี้ยงดูโจทก์ ๆ จึงเรียกร้องไม่ได้ ทั้งได้รับเงิน 200 บาทไปแล้ว โดยสัญญาว่าจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ อีก เป็นสัญญาประนีประนอม โจทก์จะเรียกร้องค่าเสียหายอีกไม่ได้
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่านายชั้น นายดีเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 โดยนายชั้นมีหน้าที่ขับรถและนายดีเป็นคนท้ายรถ รถเป็นของจำเลย ขณะรถตกห้วยนั้นนายชั้นกระทำไปในทางการที่จ้าง ข้อเท็จจริงไม่อาจวินิจฉัยได้ว่ารถตกห้วยเพราะเหตุใด แต่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 กำหนดความรับผิดของผู้ครอบครองหรือผู้ควบคุมดูแลยานพาหนะ ฯ ว่าจะต้องรับผิดเว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการเสียหายนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัย จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างของนายชั้นต้องรับผิดร่วมกับนายชั้นเพราะพิสูจน์ไม่ได้ว่ารถตกห้วย เพราะเหตุสุดวิสัยหรือเพราะความผิดของนายดี ค่าที่ต้องสูญเสียบุตรนั้นเรียกไม่ได้ นายดีอุปการะเลี้ยงดูโจทก์ อาศัย – อำนาจตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 438 ศาลกำหนดให้ 9,000 บาท ค่าทำศพนั้นให้จำเลยที่ 1 ให้แก่โจทก์อีก 600 บาท เอกสาร ล. 1 จะเรียกว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความหรือไม่ ไม่จำต้องวินิจฉัย เพราะเป็นเอกสารที่โจทก์ทำให้จำเลยที่ 2 แต่เรื่องนี้จำเลยที่ 1 ต่างหากที่เป็นผู้รับผิด หาใช่จำเลยที่ 2 ผู้เป็นเพียงหุ้นส่วนผู้จัดการเท่านั้นไม่ พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าอุปการะเลี้ยงดูโจทก์ 9,000 บาท กับค่าทำศพ 600 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย ฟ้องจำเลยที่ 2 ให้ยก
โจทก์และจำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะว่าจำเลยที่ 1 ไม่ต้องใช้ค่าทำศพ 600 บาทนั้น
โจทก์และจำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า
1. ที่จำเลยฎีกาว่ารถตกห้วยเพราะอุบัติเหตุหรือเหตุสุดวิสัย โดยอ้างว่าเกิดเหตุในเวลากลางคืน ในทางเปลี่ยวเป็นทางเทลงและโค้ง สองฟากทางเป็นห้วยลึกลูกหมากบังคับคันส่งอาจหลุด หรือยางระเบิด หรือไฟหน้ารถอาจจะดับกระทันหัน โจทก์ตั้งประเด็นมาในฟ้องว่า รถพุ่งลงห้วยเพราะนายชั้นขับรถเร็ว เมื่อถึงทางโค้งและเทก็มิได้ลดความเร็ว แต่ก็ไม่มีพยานรู้ เห็นว่ารถตกห้วยเพราะเหตุใดนั้น เห็นว่า รถคันนี้บรรทุกไม้ซุงและไม้แปรรูปมาหนักมาก และเป็นเวลากลางคืน ทางก็เทและคดโค้ง ผู้ขับควรระมัดระวังให้มาก และก่อนที่จะนำรถไปใช้ในเส้นทางเช่นนี้ ก็ควรตรวจดูสภาพของรถให้เรียบร้อยดีเสียก่อน ถ้าผู้ควบคุมหรือครองครองรถได้ใช้ความระมัดระวังในการใช้รถหรือขับรถอย่างวิญญูชนแล้ว เหตุก็จะไม่เกิดขึ้น เหตุต่าง ๆ ที่อ้างนั้นจึงไม่ใช่เหตุสุดวิสัย
2. ที่จำเลยฎีกาว่า นายชั้นผู้ครอบครองหรือควบคุมดูแลรถยนต์ในขณะเกิดเหตุตายเสีย กรณีจึงมิใช่ผู้ครอบครองหรือควบคุมดูแลรถพิสูจน์ไม่ได้ตามกฎหมาย จำเลยในฐานะนายจ้างจะรับผิดต่อเมื่อผู้ขับซึ่งเป็นลูกจ้างพิสูจน์เหตุที่เกิดขึ้นมิได้เท่านั้นนั้น เห็นว่า เป็นหน้าที่ของจำเลยซึ่งเป็นนายจ้างจะต้องพิสูจน์ว่าไม่ต้องรับผิดเพราะเหตุใด เพราะนายชั้นเป็นผู้ควบคุมรถยนต์ซึ่งเป็นยานพาหนะอันเดินด้วยกำลัง เครื่องจักรกลดังคำพิพากษาฎีกาที่ 634/2501 ซึ่งวินิจฉัยว่ากรณีอยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437
3. ที่จำเลยฎีกาว่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1545 บิดามารดาต้องให้การอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์เสมอไป แม้บุตรจะมีรายได้ก็ตามโจทก์จะเรียกเอาค่าอุปการะเลี้ยงดูเพราะบุตรผู้เยาว์ตายมิได้ และค่าเสียหายสูงเกินควร และที่โจทก์ฎีกาขอให้ใช้ค่าเสียหายเต็มตามฟ้องนั้น เห็นว่า มาตรา 443 วรรค 3 บัญญัติว่า ถ้าเหตุที่ตายนั้นทำให้คนใดขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย ผู้นั้นชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนและมาตรา 1535 บัญญัติว่า บุตรจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาได้ความว่า นายดีแบ่งเงินเดือนส่งมาให้โจทก์ใช้จ่าย เมื่อลูกจ้างของจำเลยทำให้บุตรโจทก์ตาย ทำให้โจทก์ขาดไร้อุปการะ โจทก์จึงเรียกร้องให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการขาดไร้นั้นได้ และตามมาตรา 438 ศาลกำหนด ค่าสินไหมทดแทนให้พอสมควรแก่ฐานะของโจทก์ของผู้ตายประกอบด้วยเหตุผลในคดีโดยทั่ว ๆ ไปได้ ที่ศาลล่างให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ให้โจทก์ 9,000 บาทนั้น เป็นการวินิจฉัยตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิดตามมาตรา 438 แล้ว
ส่วนค่าทำศพนายดีนั้น เห็นพ้องกับศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยที่ 1 ใช้ให้โจทก์อีก 600 บาท พิพากษาแก้เฉพาะให้ใช้ค่าทำศพด้วย

Share