คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1442/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

บทบัญญัติในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 369 มิได้บัญญัติว่าการกระทำผิดตามมาตรานี้ต้องกระทำแก่ประกาศภาพโฆษณาหรือเอกสารใดที่ปิดหรือแสดงหรือโฆษณาต่อประชาชนเท่านั้น แม้คำสั่งของ ล.เจ้าอาวาสซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ได้ออกคำสั่งเฉพาะแก่พระครู ส. เพียงรูปเดียว คำสั่งที่ออกไปนั้นถือเป็นเอกสารที่ได้มีการปิดหรือแสดงไว้ตามที่บัญญัติใน มาตรา 369 แล้ว การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า ล. ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ. เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายได้ออกคำสั่งเป็นหนังสือโดยนำหนังสือคำสั่งไปปิดและแสดงไว้ที่กุฏิพระครู ส. เพื่อให้พระครูส.ซึ่งไม่อยู่ในโอวาท ของผู้เสียหายได้รับทราบคำสั่ง และออกไปจากวัด บ. ภายใน 7 วัน อันเป็นการกระทำตามหน้าที่ จำเลยได้บังอาจแกะ ฉีก หนังสือ คำสั่งดังกล่าวทิ้งอันเป็นการทำลายเอกสารซึ่งเจ้าพนักงาน ผู้กระทำการตามหน้าที่ปิดแสดงไว้หลุดฉีก เสียหายไร้ประโยชน์ ดังนี้เป็นการบรรยายฟ้องที่ครบองค์ประกอบของความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 369 แล้ว ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องว่า คำสั่งเป็นหนังสือดังกล่าวนั้นได้ปิดหรือแสดงไว้ในลักษณะทำนองประกาศหรือโฆษณาต่อประชาชน เพราะประมวลกฎหมายอาญามาตรา 369 ไม่ได้บัญญัติไว้เช่นนั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า พระอธิการเล็ก ฉน ธม โมหรือฉน ทธม โมผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบางยี่โทและเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายได้ออกคำสั่งเป็นหนังสือไปปิดไว้ที่กุฏิพระครูสุทธิวิมลเพื่อให้พระครูสุทธิวิมลซึ่งไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาสให้ทราบคำสั่งและออกไปจากวัด จำเลยได้แกะฉีกหนังสือดังกล่าวทิ้งอันเป็นการทำลายเอกสารซึ่งเจ้าพนักงานปิดแสดงไว้ หลุด ฉีก เสียหายและไร้ประโยชน์เหตุเกิดที่ตำบลบางยี่โท อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 369พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 มาตรา 37, 38
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 369 ให้ปรับ 500 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีว่า คำว่า “เอกสาร” ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 369จะต้องหมายถึงเอกสารที่ปิดหรือแสดงไว้ในลักษณะเช่นเดียวกับประกาศหรือภาพโฆษณาต่อประชาชนหรือไม่ และโจทก์บรรยายฟ้องขาดองค์ประกอบความผิดของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 369 หรือไม่ เห็นว่าบทบัญญัติในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 369 มิได้บัญญัติว่าการกระทำผิดตามมาตรานี้ต้องกระทำแก่ประกาศภาพโฆษณาหรือเอกสารใดที่ปิดหรือแสดงหรือโฆษณาต่อประชาชน ดังนั้นแม้คำสั่งของพระอธิการเล็กเจ้าอาวาสซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ได้ออกคำสั่งเฉพาะแก่พระครูสุทธิวิมลเพียงรูปเดียวดังที่จำเลยอ้างมาในฎีกาคำสั่งที่ออกเป็นเอกสารนั้นก็ได้มีการปิดหรือแสดงไว้ตามที่บัญญัติไว้มาตรา 369 แล้ว และฟ้องโจทก์ได้บรรยายว่า เมื่อวันที่ 15 เมษายน2535 เวลากลางวัน พระอธิการเล็ก ฉน ธม โมหรือฉน ทธม โมผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบางยี่โทเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายได้ออกคำสั่งเป็นหนังสือโดยนำหนังสือคำสั่งไปปิดและแสดงไว้ที่กุฎิพระครูสุทธิวิมล เพื่อให้พระครูสุทธิวิมลซึ่งไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาสผู้เสียหาย ได้รับทราบคำสั่งและออกไปจากวัดบางยี่โทภายใน 7 วัน อันเป็นการกระทำตามหน้าที่ จำเลยได้บังอาจแกะ ฉีกหนังสือคำสั่งดังกล่าวทิ้งอันเป็นการทำลายเอกสารซึ่งเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ปิดแสดงไว้หลุด ฉีก เสียหายไร้ประโยชน์ ดังนี้เป็นการบรรยายฟ้องที่ครบองค์ประกอบของความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 369 แล้ว เพราะได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องว่า คำสั่งเป็นหนังสือดังกล่าวนั้นได้ปิดหรือแสดงไว้ในลักษณะทำนองประกาศหรือโฆษณาต่อประชาชนเพราะประมวลกฎหมายอาญามาตรา 369 ไม่ได้บัญญัติไว้เช่นนั้นดังได้วินิจฉัยมาข้างต้นฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share