คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1442/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ด่าเขาว่า “อีร้อยควย อีดอกทอง” เป็นเพียงคำด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย มิใช่เรื่องใส่ความ จึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทซึ่งหน้าตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 339(2) แต่ถ้อยคำที่กล่าวตอนต่อจากนั้นว่า “มันเย็ดกันทั่วเมืองใครๆ เขาก็รู้กันทั้งนั้น เย็ดกันรอบบ้านเย็ดกับยี่เกฯลฯ” เหล่านี้มิใช่เป็นคำด่าว่ากันด้วยถ้อยคำหยาบคายธรรมดา แต่เป็นถ้อยคำที่ผู้ด่ากล่าวยืนยันให้เห็นว่าผู้ถูกด่าเป็นหญิงไม่ดี เที่ยวร่วมประเวณีกับคนทั่วไป โดยไม่เลือกสถานที่ จึงเป็นถ้อยคำที่ทำให้ผู้ถูกด่าเสื่อมเสียชื่อเสียงและอาจทำให้ผู้อื่นดูหมิ่นเกลียดชังได้ จึงเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 282 มิใช่เรื่องหมิ่นประมาทซึ่งหน้า
คดีหมิ่นประมาท ซึ่งโจทก์ร้องขอให้พิสูจน์ความจริง ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 284 นั้น เมื่อปรากฏว่าในชั้นต้นจำเลยปฏิเสธว่ามิได้ทำผิด จนเมื่อศาลสืบพยานไปสิ้นแล้ว จำเลยจึงกลับรับสารภาพว่าได้ทำผิดตามฟ้อง ศาลสอบถามถึงเรื่องที่โจทก์ขอให้พิสูจน์ความจริง จำเลยก็แถลงว่า ไม่สามารถพิสูจน์ได้ เช่นนี้ คดีเข้าลักษณะที่ว่าศาลได้บังคับให้จำเลยพิสูจน์ความจริง แต่จำเลยพิสูจน์ให้เห็นจริงมิได้ ดั่งที่บัญญัติไว้ในมาตรา 284 แล้ว คดีจึงลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 284 ได้ (ประชุมใหญ่)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานหมิ่นประมาทตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 282,284,339(2) และขอให้เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบด้วย จำเลยรับสารภาพตลอดถึงข้อเพิ่มโทษด้วย แต่ศาลชั้นต้นเห็นว่า
จำเลยผิดตามมาตรา 339 ซึ่งเป็นผิดฐานลหุโทษอันจะเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบไม่ได้ จึงไม่ได้กล่าว ถึงการเพิ่มโทษด้วย โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยควรมีผิดตามมาตรา 282,284 ในเรื่องเพิ่มโทษหรือไม่ ไม่ได้โต้เถียงกัน ดังนี้เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยผิดตามมาตรา 282 ซึ่งอาจเพิ่มโทษตามมาตรา 72 ได้แล้ว ศาลอุทธรณ์ก็ต้องเพิ่มโทษจำเลยตามฟ้องด้วย จะถือว่าฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ ไม่ได้ขอให้เพิ่มโทษไม่ได้

Share