คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1439/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ขณะที่ผู้ตายต่อยกับน้องภรรยาจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ได้ยิงไปก่อน 1 นัด ถูกผู้ตาย แล้วต่อมาจำเลยที่ 1 จึงได้ยิงไป ตามพฤติการณ์ดังกล่าวที่จำเลยทั้งสองยิงไปนั้นเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นในทันทีทันใด โดยต่างคนต่างกระทำลงไป มิได้สมคบร่วมรู้กันมาก่อน จะฟังว่าจำเลยที่ 1 สมคบกับจำเลยที่ 2 ฆ่าผู้ตายไม่ได้ ผู้ตายมีบาดแผลถูกยิงแผลเดียว และฟังได้ว่าแผลที่ถูกยิงนั้นเป็นผลแห่งการกระทำของจำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียวฉนั้น จำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดฐานฆ่าผู้ตาย
การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปยังผู้ตายกับพวกหลายนัดนั้น ส่อเจตนาให้เห็นว่าจำเลยตั้งใจฆ่า แต่กระสุนปืนพลาดไปถูกที่ไม่สำคัญ จึงไม่ถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกับใช้อาวุธปืนสั้นยิงทำร้ายร่างกายจ่าอากาศเอก สมศักดิ์และนายมุ้ยหลายนัด โดยมีเจตนาร่วมกันจะฆ่าจ่าอากาศเอกสมศักดิ์และนายมุ้ย จ่าอากาศเอกสมศักดิ์ได้ถึงแก่ความตาย ส่วนนายมุ้ยกระสุนไม่ถูกส่วนที่สำคัญจึงไม่ตาย และกระสุนได้พลาดไปถูกนายแสวงและนายสุพินได้รับบาดเจ็บสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘-๘๓ , ๒๘๘-๖๐ , ๘๐ , ๓๓
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า ได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เพื่อป้องกันทรัพย์สินและชีวิตของจำเลย
จำเลยที่ ๒ ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ ได้กระทำผิดจริง ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ จำคุก ๒๐ ปี จำเลยที่ ๒ ฟังไม่ได้ว่าได้กระทำผิด ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๒
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องหรือลงโทษในสถานเบา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ลงโทษจำเลยที่ ๒ ตามมาตรา ๒๘๘ ให้จำคุก ๒๐ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ ๒ ได้ยิงผู้ตายจริง ส่วนจำเลยที่ ๑ นั้น เห็นว่าในขณะที่ผู้ตายต่อยกับนายบุญธรรม จำเลยที่ ๒ ได้ยิงไปก่อน ๑ นัดถูกผู้ตาย แล้วต่อมาจำเลยที่ ๑ จึงได้ยิงไป ตามพฤติการณ์ดังกล่าว ที่จำเลยทั้งสองยิงไปนั้นเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นในทันทีทันใดนั้น โดยต่างคนต่างกระทำลงไป หาได้สมคบร่วมรู้กันมาก่อนไม่ จะฟังว่าจำเลยที่ ๑ สมคบกับจำเลยที่ ๒ ฆ่าผู้ตายไม่ได้ ผู้ตายมีบาดแผลถูกยิงแผลเดียว และฟังได้ว่าแผลที่ถูกยิงนั้นเป็นผลแห่งการกระทำของจำเลยที่ ๒ แต่ผู้เดียว จำเลยที่ ๑ จึงไม่มีความผิดฐานฆ่าผู้ตาย แต่การที่จำเลยที่ ๑ ใช้อาวุธปืนยิงไปยังผู้ตายกับพวกหลายนัดนั้น ส่อเจตนาว่าจำเลยตั้งใจฆ่า แต่กระสุนปืนพลาดไปถูกที่ไม่สำคัญ จึงไม่ถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน
พิพากษาแก้ว่าจำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๘๐ ให้จำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๑๐ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยกฎีกาจำเลยที่ ๒

Share