คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1438/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำให้การจำเลยที่ 1 มีเพียงว่า ไม่ได้จ้างโจทก์ตามสัญญาท้ายฟ้องจำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดเพราะจำเลยที่ 2 ทำไปโดยไม่มีสิทธิจะทำได้แต่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์ทำงานไม่ครบกำหนดตามสัญญา จำเลยจ่ายค่าแรงงานให้คนงานไปแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างงวดแรก จำเลยจ่ายเงินทดรองให้โจทก์ไปแล้ว เครื่องมือโจทก์ไม่นำกลับคืนไปเองและโจทก์ไม่ควรได้กำไร ซึ่งมิใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ดังนี้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ได้ว่าจ้างโจทก์ทำการก่อสร้างตึกแถวโดยจำเลยที่ ๒ เป็นผู้แทนจำเลยที่ ๑ ลงนามในสัญญา โจทก์ได้ทำการก่อสร้างแล้ว จำเลยไม่ชำระเงินตามสัญญาคิดเป็นค่าแรง ๘,๗๐๐ บาทค่าเครื่องมือเครื่องใช้ ๑,๕๐๐ บาท โจทก์เสียค่านายหน้า ๒,๕๐๐ บาท และขาดกำไร ๒๐,๐๐๐ บาท ขอให้ศาลบังคับจำเลยร่วมกันใช้เงิน ๓๒,๗๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า จำเลยที่ ๒ ไม่มีสิทธิหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการห้างหุ้นส่วน จำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๑ ไม่เคยตกลงจ้างโจทก์ในการก่อสร้างตึกแถวแต่ประการใด สัญญาจ้างแรงงานท้ายฟ้อง จำเลยที่ ๑ ไม่ต้องรับผิดเพราะจำเลยที่ ๒ ไม่มีสิทธิจะทำได้
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยที่ ๒ เป็นตัวแทนจำเลยที่ ๑ พิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ชำระค่าจ้าง ๗,๓๐๐ บาท ค่าเครื่องมือ ๑,๐๐๐ บาท ค่านายหน้า ๒,๕๐๐ บาท ค่าขาดผลกำไร ๕,๐๐๐ บาท รวม ๑๕,๘๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยและให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะจำเลยที่ ๒
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ไม่ควรได้ค่านายหน้า พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ ๑ ใช้เงิน ๑๓,๓๐๐ บาทกับดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ ฎีกาว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์ทำงานไม่ครบกำหนดตามสัญญาและจำเลยจ่ายค่าแรงงานให้แก่คนงานไปแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างงวดแรก ๘,๗๐๐ บาท จำเลยจ่ายเงินทดรองให้โจทก์ไป ๕,๐๐๐ บาทแล้ว เครื่องมือโจทก์ไม่เอากลับคืนไปเอง และโจทก์ไม่ควรได้กำไร ๕,๐๐๐ บาท
ศาลฎีกาเห็นว่า คำให้การต่อสู้คดีของจำเลยที่ ๑ มีเพียงว่าจำเลยที่ ๑ ไม่ได้จ้างโจทก์ตามสัญญาท้ายฟ้อง จำเลยที่ ๑ ไม่ต้องรับผิด เพราะจำเลยที่ ๒ ทำไปโดยไม่มีสิทธิจะทำได้ จำเลยที่ ๑ มิได้ยกข้อต่อสู้ตามที่กล่าวมาในฎีกาเลย และมิใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายกฎีกาจำเลยที่ ๑

Share