คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1437/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เสียหายและฝ่ายจำเลยไม่รู้จักและไม่มีสาเหตุกันมาก่อน เหตุที่เกิดขึ้น เพราะการขับรถแย่งผู้โดยสารแล้วท้าทายทำร้ายกัน พวกจำเลยมีมีดเข้าแทงผู้เสียหายก่อนผู้เสียหายใช้ไม้ตี จำเลยซึ่งไม่มีอาวุธอะไรเข้าแย่งไม้แล้วตีผู้เสียหายการทำร้ายมีการชุลมุนไม่พอรับฟังว่าจำเลยกับพวกเลือกทำร้ายโดยถนัด บาดแผลที่ผู้เสียหายถูกแทงใกล้ๆกัน 2 แผลที่ราวนมซ้ายลึกเพียง 0.7 เซนติเมตร จะลึกเพียงแค่ผนังทรวงอก แผลที่กล้ามเนื้อแขนซ้ายท่อนบน 4 แผล ลึก 1 เซนติเมตร บาดแผลถูกตีที่ศรีษะ 2 แห่งไม่ปรากฏว่าทำให้กะโหลกศรีษะเป็นอันตรายถึงแตกหักบุบสลายหรือทำให้หมดสติ แสดงว่ามิได้ถูกแทงหรือตีโดยแรง ระหว่างชุลมุนทำร้าย มีผู้ร้องว่าตำรวจมา จำเลยกับพวกได้หลบหนีไป ไม่พอรับฟังว่าถ้าไม่มีผู้ร้องเช่นนั้น จำเลยกับพวกจะฆ่าผู้เสียหายพฤติการณ์ตามรูปคดีไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกพยายามฆ่าผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 83

จำเลยให้การว่า ได้ใช้ไม้ตีทำร้ายผู้เสียหายจริง แต่ไม่มีเจตนาฆ่า

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80, 83 จำคุก 10 ปี จำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวน ในชั้นศาลก็รับว่าทำร้ายผู้เสียหาย ลดโทษให้ 1 ใน 3 จำคุกจำเลย 6 ปี 4 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 จำคุก 1 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 จำคุกจำเลย 8 เดือน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นพนักงานเก็บค่าโดยสารรถคันที่นายแดงขับลงจากรถตามนายแดงซึ่งเข้าไปพูดเป็นทำนองท้าให้นายชื่นเข้าต่อสู้กัน เนื่องจากการขับรถแซงกันแย่งรับผู้โดยสารนายชื่อถือไม้ลงจากรถ นายแดงมีมีด จำเลยไม่มีอาวุธอะไร นายแดงเข้าแทงนายชื่นก่อน นายชื่นใช้ไม้ตีตอบ จำเลยเข้าแย่งไม้จากนายชื่นใช้ไม้นั้นตีนายชื่นจนเซลงไปในคูน้ำข้างทาง นายแดงกับจำเลยติดตามลงไปแทงและตีนายชื่นอีก เป็นพฤติการณ์ที่ถือได้ว่าจำเลยร่วมกระทำผิด มีปัญหาว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าหรือไม่ เห็นว่ากรณีตามคดีนี้ฝ่ายนายชื่นและฝ่ายจำเลยไม่รู้จักและไม่มีสาเหตุกันมาก่อน เหตุที่เกิดขึ้นเพราะการขับรถแย่งรับผู้โดยสารแล้วท้าทายทำร้ายกัน นายสมเจตน์พยานโจทก์เบิกความว่าในการทำร้ายมีการชุลมุนข้อเท็จจริงไม่พอรับฟังว่าจำเลยกับพวกเลือกทำร้ายโดยถนัด บาดแผลที่นายชื่นถูกแทงใกล้ ๆ กัน 2 แผลที่ราวนมซ้าย แพทย์ผู้ตรวจว่ามีความลึกเพียง 0.7เซนติเมตร จะลึกเพียงแค่ผนังทรวงอก บาดแผลที่ถูกแทงที่กล้ามเนื้อแขนซ้ายท่อนบน 4 แผล มีความลึก 1 เซนติเมตร แสดงว่าบาดแผลที่ถูกแทงดังกล่าวทุกแผลมิได้ถูกแทงโดยแรง ส่วนบาดแผลที่ถูกตีด้วยไม้ที่ศีรษะ 2 แห่ง ก็ไม่ปรากฏว่าทำให้กะโหลกศีรษะเป็นอันตรายถึงแตกหักบุบสลายหรือทำให้หมดสติไม่พอรับฟังว่าผู้ตีตีโดยแรง ระหว่างชุลมุนทำร้ายมีผู้ร้องว่าตำรวจมา จำเลยกับพวกได้หลบหนีไป ไม่พอรับฟังว่าถ้าไม่มีผู้ร้องเช่นนั้น จำเลยกับพวกจะฆ่านายชื่น พฤติการณ์ตามรูปคดีไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า

พิพากษายืน

Share