คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1435/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินในโฉนดมีชื่อมารดากับบุตรผู้เยาว์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์มารดาไปทำสัญญาขายที่ดินนี้ให้แก่ผู้อื่นนั้น ย่อมไม่ผูกพันส่วนของบุตรซึ่งเป็นผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นางเลื่อนมารดาจำเลยได้ทำหนังสือขายขาดที่นาโฉนดที่ 505 มีชื่อนางเลื่อนและจำเลยให้แก่โจทก์ เป็นเงิน 450 บาท นางเลื่อนรับเงินไปแล้ว 300 บาท ส่วนอีก 150 บาทจะชำระต่อเมื่อนางเลื่อนและจำเลยโอนใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดเมื่อจำเลยมีอายุครบ 20 ปี นางเลื่อนได้มอบโฉนดให้โจทก์ และโจทก์ครอบครองอย่างเปิดเผยมาเกิน 10 ปี จึงขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินรายพิพาทเป็นของโจทก์ และห้ามมิให้จำเลยเข้าเกี่ยวข้องหรือให้จำเลยยอมรับเงิน 150 บาท และจัดการโอนชื่อในโฉนดให้เป็นของโจทก์ตามสัญญา หรือจำเลยจะเอาที่ดินคืน ให้ใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ 4,500 บาท นายเลื่ยมยื่นคำร้องว่านายชลอจำเลยอายุไม่ครบ 20 ปี ขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้แทนโดยชอบธรรม เพื่อดำเนินคดีกับโจทก์ต่อไป ศาลอนุญาต

นายเลี่ยมยื่นคำให้การแทนจำเลยว่า จำเลยมิได้รู้เห็นและยินยอมในการซื้อขายที่พิพาท ทั้งมารดาจำเลยไม่ได้ขาย หรือเป็นตัวแทน โจทก์ไม่มีสิทธิจะมาฟ้อง ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ที่แปลงนี้มีชื่อนางเลื่อนกับจำเลยผู้เป็นบุตรถือกรรมสิทธิ์ การที่นางเลื่อนไปทำสัญญากับโจทก์ ย่อมไม่ผูกพันส่วนของจำเลย ซึ่งเป็นผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546

พิพากษายืน

Share