คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1433/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีความผิดต่อส่วนตัวนั้น เมื่อผู้เสียหายได้ทำสัญญาจะถอนฟ้องไม่ดำเนินคดีแก่จำเลยแล้ว ย่อมมีผลเป็นการยอมความ ทำให้สิทธินำคดีมาฟ้องระงับไปตามกฎหมายด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ออกเช็คเป็นเงิน 6,000 บาทให้แก่นายโคม แซ่หวมแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น เพราะเงินในบัญชีไม่มี ขอให้ลงโทษ

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ให้จำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 1 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา จำเลยยื่นคำร้องว่า ผู้เสียหายได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีที่จำเลยในคดีนี้เป็นโจทก์ และได้ตกลงยินยอมไม่เอาความแก่จำเลยในคดีนี้แล้ว ขอให้สั่งจำหน่ายคดีศาลฎีกาจึงสั่งให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวน ซึ่งได้ทำการไต่สวนเสร็จแล้ว

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ตามทางไต่สวนว่า นายโคม แซ่หวมผู้เสียหายในคดีนี้กับนายไก๊เคย แซ่หวม จำเลยในคดีแดงของศาลชั้นต้นเป็นบุคคลคนเดียวกัน และนายโคมหรือไก๊เคยตกลงว่าจะถอนฟ้องไม่ดำเนินคดีนี้แก่จำเลยต่อไป

คดีนี้เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว ผู้เสียหายย่อมขอยอมความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 35 วรรค 2 เมื่อผู้เสียหายได้ทำสัญญาจะถอนฟ้องไม่ดำเนินคดีนี้แก่จำเลย ก็มีผลเป็นการยอมความทำให้สิทธินำคดีมาฟ้องระงับไปตามมาตรา 39(2) จึงให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

Share