คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1433/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่พิพาทเป็นที่นามือเปล่าและอยู่ในความครอบครองของฝ่ายจำเลย ซึ่งอ้างว่าได้มาโดยการสละกรรมสิทธิ์ต่อเนื่องจากที่ได้รับซื้อฝากไว้ เมื่อโจทก์อ้างว่าได้กู้เงินจำเลยไปและให้ที่ไว้ทำกินต่างดอกเบี้ยไม่ใช่การซื้อฝาก ดังนี้เป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบก่อน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าสามีโจทก์กู้เงินจำเลยแล้วมอบที่ให้ทำกินต่างดอกเบี้ย ต่อมาสามีโจทก์ตาย จึงขอไปชำระเงินกู้ จำเลยไม่ยอมจึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยรับเงินและคืนนา จำเลยต่อสู้ว่าสามีโจทก์ขายฝากโดยกำหนดไถ่ถอนคืนใน 15 วัน ครบกำหนดไม่มีเงินไถ่ ได้ยอมยกนาให้ จำเลยได้ครอบครองมาโดยสงบและเปิดเผยได้ 3 ปี 8 เดือน โจทก์จำเลยไม่สืบพยาน ศาลชั้นต้นฟังว่าคดีขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ที่พิพาทเป็นที่นามือเปล่า ไม่มีหนังสือสำคัญ และอยู่ในความครอบครองของฝ่ายจำเลย ซึ่งอ้างว่าได้มาโดยสละกรรมสิทธิ์ต่อเนื่องจากที่ได้รับซื้อฝาก เมื่อโจทก์อ้างว่าได้กู้เงินจำเลยไปและให้ที่ไว้ทำต่างดอกเบี้ย เป็นหน้าที่ของโจทก์ต้องนำสืบก่อน เมื่อโจทก์ไม่สืบ ก็ไม่มีทางชนะคดี

พิพากษายืน

Share