คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 เป็นเรื่องที่ให้ริบทรัพย์ชนิดที่กฎหมายบัญญัติว่าถ้าทำหรือมีไว้แล้วก็ต้องเป็นความผิด เมื่อปืนของกลางเป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้องจำเลยซึ่งมิใช่เจ้าของปืนนำมาครอบครองไว้ จึงคงเป็นความผิดในส่วนที่ตนมิได้รับอนุญาตเท่านั้น จึงไม่เข้าลักษณะตามมาตรา 32 อันจะพึงสั่งริบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนสั้นจดทะเบียนแล้วซึ่งเป็นของนายคล้อยไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาตและเจ้าของรู้เห็นยินยอมด้วย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33 และริบอาวุธปืนกับกระสุนปืนของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33 ปรับ 300บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 150 บาท ส่วนของกลางไม่ริบ เพราะเป็นปืนที่เจ้าของมีไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบปืนของกลาง

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ปืนของกลางเป็นปืนที่มีทะเบียนตามกฎหมายแล้ว จำเลยนำติดตัวโดยไม่รับอนุญาต ก็เป็นความผิดส่วนตัวของจำเลยแม้เจ้าของจะยินยอมให้นำไปใช้ก็ไม่ทำให้อาวุธปืนที่มีใบอนุญาตแล้วนั้นกลายเป็นผิดกฎหมายอันจะพึงต้องริบ พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 เป็นเรื่องที่ให้ริบทรัพย์ชนิดที่กฎหมายบัญญัติว่าถ้าทำหรือมีไว้แล้วก็ต้องเป็นความผิด ส่วนอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางรายนี้ เป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้องแล้วจำเลยมีไว้เป็นความผิดขึ้นมา เพราะเหตุที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองเท่านั้น หาใช่สภาพแห่งการกระทำหรือมีได้ถูกกำหนดให้เป็นผิดอยู่ในตัวนั้นไม่

พิพากษายืน

Share