แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เงินค่าหุ้นที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นสมาชิกของสหกรณ์ผู้ร้องชำระแก่ผู้ร้องแล้วนั้น แม้จะเป็นเงินทุนของผู้ร้อง แต่จำเลยที่ 1 ก็ยังมีสิทธิเรียกร้องเอาคืนได้ทั้งไม่อยู่ในข้อยกเว้นในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 285,286 แม้จะได้ความว่าจำเลยที่ 1 ได้จำนำหุ้นดังกล่าวไว้เป็นประกันเงินกู้กับผู้ร้อง ผู้ร้องก็มีสิทธิเพียงได้รับชำระจากเงินค่าหุ้นที่ถูกอายัด ก่อนเจ้าหนี้รายอื่นเท่านั้น หาใช่เหตุที่ผู้ร้องจะขอให้เพิกถอนคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีและคำสั่งให้ผู้ร้องส่งเงินค่าหุ้นของจำเลยที่ 1 ได้ไม่ ที่ผู้ร้องฎีกาว่าสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่ 1 ยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าจำเลยที่ 1 จะพ้นจากการเป็นสมาชิกและปราศจากภาระหนี้ที่มีต่อผู้ร้อง เจ้าพนักงานบังคับคดีจะบังคับคดีให้กระทบสิทธิของผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกไม่ได้นั้น ปัญหานี้ผู้ร้องมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น แม้ผู้ร้องจะยกปัญหานี้อุทธรณ์ด้วยแต่ศาลอุทธรณ์ก็มิได้วินิจฉัยให้ทั้งปัญหาดังกล่าวไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจาก ศาลจังหวัดชัยภูมิได้ขอให้ศาลจังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการบังคับคดีแทน เจ้าพนักงานบังคับคดีได้มีคำสั่งอายัดเงินค่าหุ้นของจำเลยที่ 1 อันมีต่อผู้ร้อง และให้ผู้ร้องส่งมอบเงินดังกล่าวจำนวน 22,000 บาท แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวเจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งยกคำร้อง และขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีแก่ผู้ร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการอายัดเงินค่าหุ้นของจำเลยที่ 1 และให้ผู้ร้องส่งเงินค่าหุ้นดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เพราะกรณีการบังคับคดีเอาจากหุ้นของจำเลยที่ 1 ที่ได้จำนำเป็นประกันหนี้เงินกู้ไว้แก่ผู้ร้องนั้น เจ้าพนักงานบังคับคดีชอบที่จะยึดตราสารแห่งหุ้นของจำเลยที่ 1 ออกขายทอดตลาดต่อไปเท่านั้น และไม่มีสิทธิขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีแก่ผู้ร้อง ขอให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีและงดการออกหมายบังคับคดีแก่ผู้ร้อง และขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ร้องส่งมอบตราสารแห่งหุ้นของจำเลยที่ 1 จำนวนเงิน22,000 บาท แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อนำออกขายทอดตลาด
ศาลจังหวัดนครราชสีมาพิจารณาแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เงินค่าหุ้นจำนวน 22,000 บาท ที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาและเป็นสมาชิกของสหกรณ์ผู้ร้องได้ชำระแก่ผู้ร้องไปแล้วนั้น แม้ว่าจะเป็นเงินทุนของผู้ร้อง จำเลยที่ 1 ก็ยังมีสิทธิเรียกร้องเอาคืนได้ อีกทั้งก็ไม่อยู่ในข้อยกเว้นในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 285, 286 แม้จะได้ความว่าจำเลยที่ 1 ได้จำนำหุ้นดังกล่าวไว้เป็นประกันเงินกู้กับผู้ร้อง ผู้ร้องก็มีสิทธิเพียงได้รับชำระจากเงินค่าหุ้นที่ถูกอายัดไว้ก่อนเจ้าหนี้รายอื่นเท่านั้น เหตุนี้หาใช่เหตุที่ผู้ร้องจะขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีและคำสั่งให้ผู้ร้องส่งเงินค่าหุ้นของจำเลยที่ 1 ได้ไม่ส่วนที่ผู้ร้องฎีกาว่าหากแม้เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าหุ้นดังกล่าวเป็นสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่ 1 แต่สิทธิเรียกร้องนั้นก็ยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าจำเลยที่ 1 จะพ้นจากการเป็นสมาชิก และปราศจากภาระหนี้ที่มีต่อผู้ร้องเจ้าพนักงานบังคับคดีจะบังคับคดีให้กระทบสิทธิของผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกไม่ได้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาของผู้ร้องข้อนี้ ผู้ร้องมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นแม้ผู้ร้องจะยกปัญหานี้อุทธรณ์ด้วย แต่ศาลอุทธรณ์ก็มิได้วินิจฉัยให้ทั้งปัญหาดังกล่าวไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนจึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาปัญหาข้อนี้ขึ้นมาเป็นการมิชอบศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายืน