แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า กระบือที่ถูกคนร้ายลักไปเป็นของผู้เสียหายทางพิจารณาได้ความว่ากระบือนั้นเป็นของแม่ยายของผู้เสียหายแต่ผู้เสียหายเป็นคนดูแลรักษากระบือนั้นทั้งหมดดังนี้ ไม่เป็นเหตุที่จะให้ศาลพิพากษายกฟ้อง
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2507 เวลากลางวันมีคนร้ายลักกระบือ 3 ตัว ราคา 1,800 บาทของนายภู อำมะ ผู้มีอาชีพประกอบกสิกรรมไปโดยทุจริต ต่อมาวันที่ 13 เดือนเดียวกันนั้นมีผู้พบเห็นจำเลยกับพวกพากระบือ 3 ตัวนั้นไปหรือมิฉะนั้นจำเลยกับพวกได้ร่วมกันรับกระบือ 3 ตัวนั้นไว้จากคนร้าย โดยรู้อยู่ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมายฐานลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 335, 357 และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่เจ้าทรัพย์ด้วย
จำเลยให้การปฏิเสธอ้างฐานที่อยู่ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า พยานโจทก์มีเหตุอันน่าสงสัย จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 357 ให้จำคุกจำเลย 1 ปี และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคา (กระบือเผือก 1 ตัว) 600 บาท แก่ผู้เสียหายด้วย
จำเลยฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงและปัญหาข้อกฎหมาย ขอให้พิพากษายกฟ้อง
ในปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ส่วนข้อจำเลยฎีกาว่ากระบือ 5 ตัว ที่โจทก์กล่าวในฟ้อง ความจริงเป็นของแม่นายนายภูมิใช่เป็นของนายภู ข้อเท็จจริงจึงต่างกับฟ้อง ควรพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียนั้น ข้อนี้ ตามคำของนายภูได้ความว่า นายภูเป็นคนดูแลรักษากระบือนี้ทั้งหมด จึงไม่เป็นเหตุที่จะให้ศาลพิพากษายกฟ้องจึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์