คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 143/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พรึติการน์ที่ถือว่ากะทำการป้องกันตนและทรัพย์สินไม่เกินสมควรแก่เหตุ

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยเฝ้าบ้านหยู่คนเดียวมีเพื่อมานั่งคุยหยู่-ด้วย ๒ คน นั่งคุยกันมือ ๆ เพราะระหว่างนั้นมีโจรผู้ร้ายกะทำการปล้นทรัพย์ชิงทรัพย์ชุกชุม ชาวบ้านต่างเกรงกลัวโจร ภรรยาจำเลยและมารดาจำเลยไปพักนอนที่อื่น เวลาประมาณ ๒๐ นาลิกากำลังฝนตก ผู้ตายรีบเดินขึ้นเรือน จำเลยร้องถามผู้ตายก็ไม่ตอบจำเลยจึงร้องถามผู้ตายก็ไม่ตอบจำเลยจึงร้องบอกไปอีกว่าหย่าขึ้นมาจะยิงผู้ตายก็ยังขืนเดืนขึ้นบันไดเรือนจำเลยเวลานั้นเดือนมืดมองดูไม่รู้ว่าเปนใคร เมื่อสีสะผู้ตายพ้นชานเรือนแล้ว จำเลยยังร้องถามอีก ๒-๓ คำ ผู้ตายก็ไม่ตอบ จำเลยสำคันมั่นไจว่าเปนผู้ร้ายบังอาดบุกรุกขึ้นมาบนเคหะสถานประกอบด้วยเปนเวลาที่มีโจรผู้ร้ายปล้นทรัพย์ชิงทรัพย์ชุกชุม จำเลยจึงใช้ปืนลูกซองยิงไป ๑ นัด ถูกขาผู้ตาย ๆ ร้องขึ้นจึงซาบว่าเปนมารดาภรรยา และได้ขาดไจตายไนวันรุ่งขึ้น
สาลดีกาตัดสินว่าการที่จำเลยยิงปืนไปโดยเจตนาจะป้องกันชีวิตร่างกายและทรัพย์สินไนเหตุการน์ที่ผู้ตายสแดงอาการไห้พึงเข้าใจว่าเปนผู้ร้ายสำคัน ก็ยอมนับว่ากะทำป้องกันตัวและทรัพย์สินและการที่กะทำไปทั้งนี้ ยังเรียกไม่ได้ว่ากะทำเกินสมควรแก่เหตุ จำเลยไม่ต้องรับอาญาตามกดหมายอาญามาตรา ๕๐ พิพากสายืนตามสาลอุธรน์ที่ไห้ยกฟ้องโจท ปล่อยจำเลย

Share