คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1429/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 เป็นปลัดอำเภอกับจำเลยที่ 3 เป็นตำรวจได้ควบคุมผู้ต้องหาในข้อหาฐานหมิ่นประมาทขัดขวางต่อสู้เจ้าพนักงาน ระหว่างควบคุมผู้ต้องหาหลบหนี จำเลยที่ 1 ได้สั่งให้จำเลยที่ 3 ยิงผู้ต้องหาขณะกำลังวิ่งหนีถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยที่ 1 และที่ 3 ย่อมมีผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา จำเลยที่ 3 จะอ้างว่าทำตามคำสั่ง โดยเชื่อว่าเป็นการชอบด้วยเหตุผลอันสมควรไม่ได้
การชันสูตรศพนั้นจะไม่ขุดศพขึ้นตรวจดูก็ได้ในเมื่อกรรมการผู้ชันสูตรศพเห็นว่าไม่จำเป็นเพราะได้สอบสวนผู้ชันสูตรศพเดิม และพะยานอื่นอันเป็นที่พอใจแล้ว

ย่อยาว

ความว่า นายทองผู้ตายถูกจำเลยจับควมคุมมาระหว่างควบคุม นางทองได้หลบหนี้ไป จำเลยที่ ๑,ที่ ๓ และพลฯ บุญมาได้ออกติดตามพบนายทองกำลังวิ่งหนี จำเลยบอกให้หยุด ก็ไม่หยุด จำเลยที่ ๑ ร้องบอกขึ้นว่า “ยิงๆ” จำเลยที่ ๓ และพลฯบุญมา จึงใช้ปืนยิงไปคนละ ๒ นัด ในระยะห่างกัน ๑๐ วากระสุนถูกนายทองถึงแก่ความตายในทันใดนั้นเอง โจทก์จึงมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย จำเลยที่ ๑ ให้การว่าจำเลยที่ ๑ ร้องว่ายิง ๆ เพื่อขู่ให้นายทองกลัว นายทองไม่หยุดจำเลยที่ ๑ ก็ไม่ได้ยิง จำเลยที่ ๓ ให้การว่าได้ยิงนายทองมิได้มีเจตนาให้ตาย หมายยิงตามแข้งขา เพื่อไม่ให้หลบหนี และจำเลยที่ ๓ สู้ว่า จำเลยได้ทำไปตามคำสั่งโดยเชื่อว่าเป็นคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ ๒ ให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ มีผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙, ๖๔ ให้จำคุก ๒๐ ปี จำเลยที่ ๓ มีผิดตามมาตรา ๒๔๙ จำคุก ๑๕ ปีลดฐานคำรับของจำเลยมีประโยชน์แก่ทางพิจารณา คงจำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๑๓ ปี ๔ เดือน จำเลยที่ ๓ มีกำหนด ๑๐ ปี ยกฟ้องจำเลยที่ ๒ ศาลอุทธรณ์แก้ฉะเพาะบทลงโทษจำเลยที่ ๑ เป็นว่ามาตรา ๒๔๙, ๖๓ นอกจากแก้คงยืน.
จำเลยที่ ๑, ๓ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยที่ ๑ สั่งให้ยิงนายทองผู้ต้องหานี้นั้น นายทองต้องหาฐานหมิ่นประมาท ขัดขวางต่อสู้ทำร้ายเจ้าพนักงานอันเป็นเรื่องเล็กน้อย นายทองก็เป็นคนมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง กับขณะนั้นนายทองก็ไม่มีอาวุธอะไร และไม่มีท่าทีจะต่อสู้อย่างไรด้วย กรณีที่ไม่มีความจำเป็นและสมควรถึงกับจำเลยที่ ๑ จะสั่งให้ยิง จำเลยที่ ๓ จะอ้างว่าทำตามคำสั่งโดยเชื่อว่าเป็นการชอบด้วยเหตุผลอันสมควรไม่ได้ จำเลยที่ ๓ จึงไม่มีทางแก้ตัวให้พ้นผิด
สำหรับการชันสูตรพลิกศพนั้น ตามกฎหมายเมื่อกรรมการที่ชันสูตรพลิกศพเห็นว่าไม่จำเป็น จะไม่ขุดศพขึ้นดูก็ได้ เรื่องนี้กรรมการได้สอบสวนผู้ชันสูตรเดิมและพะยานอื่น ๆ จนเป็นที่พอใจแล้วคงเห็นไม่จำเป็น จึงไม่ขุดศพขาึ้นมาดูอีก การชันสูตรพลิกศพรายนี้ย่อมสมบูรณ์
พิพากษายืน.

Share