คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1428/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อจำเลยกับฝ่ายผู้ตายต่างวิวาททำร้ายซึ่งกันและกันจำเลยไม่อาจอ้างว่ากระทำเพื่อป้องกันตัว
จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายขณะชุลมุนกันและในเวลาค่ำมืดซึ่งฝ่ายผู้ตายมีมีดและเป็นอาวุธที่ร้ายแรงกว่าจำเลยแม้จำเลยจะแทงผู้ตายหลายที แต่ก็ไม่มีโอกาสเลือกแทงผู้ตายให้ถูกที่สำคัญได้ เพราะชุลมุนและค่ำมืด ทั้งยังต้องสู้กับพวกผู้ตายอีก เช่นนี้ จะฟังว่าจำเลยกระทำโดยเจตนาฆ่าไม่ได้ จำเลยคงผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยไม่เจตนา
แม้โจทก์จะฟ้องจำเลยฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนา แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นการฆ่าโดยไม่เจตนา ศาลลงโทษได้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวมาในฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดปาดตาลแทงนายจบ ทองไส เป็นบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่งถึงแก่ความตายโดยเจตนาฆ่า ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ริบมีดของกลาง
จำเลยให้การต่อสู้ว่ากระทำไปเพื่อป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ให้จำคุก ๑๕ ปี คำให้การชั้นสอบสวนและชั้นศาลเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี ลดโทษตามมาตรา ๗๘ให้หนึ่งในสาม คงจำคุกไว้ ๑๐ ปี ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยยืนตามศาลชั้นต้น แต่เห็นสมควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง พิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลยไว้ ๗ ปี ๖ เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาดุลพินิจลงโทษของศาลอุทธรณ์ และจำเลยฎีกาว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัว
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นเรื่องจำเลยฝ่ายหนึ่งกับผู้ตายและนายชมอีกฝ่ายหนึ่ง วิวาททำร้ายซึ่งกันและกันดังที่ศาลล่างทั้งสองฟังต้องกันมา จำเลยจะอ้างว่า ใช้มีดแทงผู้ตายเพื่อป้องกันตัวไม่ได้ แต่ขณะเกิดเหตุเป็นเวลาค่ำมืด จำเลยแทงผู้ตายในขณะชุลมุนโดยผู้ตายมีมีดอย่างเดียวกับจำเลย นายชมมีปืนซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงกว่าจำเลย แม้จำเลยจะแทงหลายทีแต่ก็ไม่มีโอกาสเลือกแทงให้ถูกที่สำคัญได้เพราะชุลมุนและค่ำมืด และรีบแทงเพื่อจะหันกลับมาสู้พวกผู้ตายอีกคนหนึ่ง จะฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายไม่ได้ จำเลยคงมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา และคดีนี้แม้โจทก์จะฟ้องจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนา แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นการฆ่าโดยไม่เจตนา ศาลก็ลงโทษได้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงดังกล่าวในฟ้อง และเห็นสมควรลดโทษให้จำเลยตามมาตรา ๗๘ เพียงหนึ่งในสามตามฎีกาโจทก์
พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๐ให้จำคุก ๖ ปี คำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสามตามมาตรา ๗๘ คงจำคุกไว้ ๔ ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามศาลอุทธรณ์

Share