คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1428/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กฎกระทรวงต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย จึงจะมีผลบังคับได้
เจ้าพนักงานที่ดินมีหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินตาม พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน ร.ศ.127 มาตรา 41 ฉะนั้นจะอ้างระเบียบกระทรวงมหาดไทยซึ่งวางระเบียบไว้ว่าถ้าผู้ซื้อที่ดินเป็นบุตรของคนต่างด้าว แม้จะมีสัญชาติเป็นไทยก็ให้มีการสอบสวนเพื่อควบคุมให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติที่ดินเกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ.2486 อันไม่ปรากฏว่าได้ออกมาโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายมาหน่วงเหนี่ยวขัดขวางผู้ร้องขอที่มีสัญชาติไทยบิดาเป็นคนต่างด้าวมิให้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิในที่ดินตามกฎหมายไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นบุคคลสัญชาติไทยโดยได้รับพระบรมราชานุญาตให้แปลงชาติโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว โจทก์ได้ไปขอให้จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่มีหน้าที่จดทะเบียนให้จดทะเบียนนิติกรรมซื้อขายที่ดินมีโฉนดซึ่งโจทก์ซื้อจากนางบัวเทพจำเลยกลับสั่งว่าโจทก์เป็นบุคคลที่มีบิดาเป็นคนต่างด้าวจะต้องสอบสวนถามไปยังกรมที่ดินก่อนว่าโจทก์จะมีสิทธิซื้อที่ดินได้หรือไม่ทำให้โจทก์เสียหายขอให้ศาลบังคับจำเลยจดทะเบียนนิติกรรมซื้อขายที่ดินมีโฉนดซึ่งโจทก์ซื้อจากนางบัวเทพให้โจทก์

จำเลยต่อสู้ตัดฟ้องว่าโจทก์ไม่เคยไปติดต่อกับจำเลยเพื่อขอให้จำเลยจดทะเบียนทำนิติกรรมซื้อที่ดินในวันที่โจทก์ฟ้องนั้นโจทก์ได้ไปขอให้จำเลยจดทะเบียนโดยโจทก์แจ้งว่าเป็นเชื้อชาติแขกอิสลาม สัญชาติไทย อาศัยอำนาจตามความใน มาตรา 41 ข้อ (ข)แห่งพระราชบัญญัติการออกโฉนดที่ดิน ร.ศ. 127 จำเลยจำเป็นต้องสอบสวนก่อนว่านางบัวเทพผู้ขายและโจทก์ผู้ซื้อมีอำนาจจะซื้อขายที่ดินรายนี้ตามกฎหมายหรือไม่ แต่โจทก์ละเลยไม่ไปพบจำเลยเพื่อสอบสวนก่อน จำเลยไม่เคยสั่งว่าโจทก์มีบิดาเป็นคนต่างด้าวต้องสอบสวนไปยังกรมที่ดินก่อน

ศาลชั้นต้นเชื่อว่าโจทก์ นางบัวเทพและนายศักดิ์ทนายความมาติดต่อขอจดทะเบียนที่ดินกับจำเลยแต่จำเลยไม่กล้าที่จะทำให้เพราะเป็นการขัดระเบียบกระทรวงมหาดไทยซึ่งวางระเบียบไว้ว่าถ้าเป็นบุตรของคนต่างด้าว แม้จะมีสัญชาติเป็นไทยก็ให้มีการสอบสวนเพื่อควบคุมให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติที่ดินเกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ. 2486 ทำให้โจทก์ ต้องรอฟังเรื่องราวเป็นเวลาช้านานจนเกินควรไม่ได้รับความสะดวกดังคนไทยอื่น ระเบียบกระทรวงมหาดไทยมีข้อความอย่างไร ออกมาโดยอาศัยอำนาจอะไรเป็นปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งจำเลยมิได้นำสืบไว้ ศาลจึงไม่อาจรับฟังว่าเป็นระเบียบที่ชอบด้วยกฎหมายอันเป็นเหตุที่จำเลยจะนำมาอ้างเป็นข้อแก้ตัวได้ พิพากษาให้จำเลยปฏิบัติตามพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน ร.ศ. 127 มาตรา 41 (ข) ให้เสร็จสิ้นภายในกำหนด 1 เดือน

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้เป็นคำขอปลดเปลื้องทุกข์ซึ่งกำหนดส่งเป็นราคาเงินมิได้ คดีต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 คงมีปัญหาข้อกฎหมายที่ว่าจำเลยจะอ้างระเบียบของกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวขึ้นลบล้างหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายได้หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานที่ดินมีหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินตามพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน ร.ศ. 127 มาตรา 41 จำเลยจะอ้างระเบียบของกระทรวงมหาดไทยซึ่งไม่ปรากฏว่าได้ออกโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายมาหน่วงเหนี่ยวขัดขวางโจทก์มิให้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินตามกฎหมายไม่ได้

Share