แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าของที่ดินซึ่งมีทางภารจำยอมโดยอายุความอยู่ก่อนแล้วโอนขายที่ดินบางส่วนให้แก่ผู้ซื้อโดยเติมชื่อผู้ซื้อลงในโฉนดร่วมกับตนดังนี้ ไม่เป็นเหตุทำให้ภารจำยอมซึ่งมีอยู่แต่เดิมสิ้นไป
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ที่ดินของจำเลยตกเป็นภารจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์เป็นทางเดินออกสู่ถนนสาธารณะ จำเลยปิดกั้นทางนั้นเสีย ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนรั้วและสิ่งกีดขวางให้โจทก์มีสิทธิใช้ทางได้ตลอดไป
จำเลยต่อสู้ว่า ไม่ได้ปิดทาง ที่ดินที่โจทก์อ้างจำเลยได้ขายให้นายสมพร้อมไปแล้ว และมิได้ตกเป็นภารจำยอม
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนรั้วและสิ่งกีดขวางที่จำเลยทำไว้บนทางเดินพิพาท อันเป็นภารจำยอมออกไปเสีย ให้โจทก์มีสิทธิใช้ทางภารจำยอมพิพาทได้ตลอดไป
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้ภารจำยอมในทางพิพาทโดยอายุความและจำเลยเป็นผู้ปิดกั้นทางพิพาท
มีปัญหาว่า การที่จำเลยอ้างว่าได้ขายที่ดินและทางเดินพิพาทให้แก่นายสมพร้อมไปแล้ว หากสมมติว่าฟังได้ จะทำให้ทางเดินพิพาทซึ่งตกอยู่ในภารจำยอมอยู่ก่อนสิ้นไปหรือไม่
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การซื้อที่ดินของนายสมพร้อมนี้ เป็นเพียงเติมชื่อของตนและของนางหนิงผู้ซื้อที่ดินอีกคนหนึ่งถือกรรมสิทธิ์ตามส่วนลงไปในโฉนดที่ดินร่วมกับจำเลยเท่านั้น กรณีเช่นนี้มิต้องด้วยบทบัญญัติแห่งกฎหมายให้ภารจำยอมซึ่งมีอยู่แต่เดิมสิ้นไป
พิพากษายืน