คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1425/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้ให้การต่อสู้คดีว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เมื่อจำเลยแก้อุทธรณ์ จำเลยก็ยังโต้แย้งความข้อนี้อยู่ ประเด็นนี้ยังไม่ยุติศาลอุทธรณ์วินิจฉัยได้
เจ้าของที่ดินได้โอนการฟ้องร้องขอให้เพิกถอนหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินระหว่างเจ้าของที่ดินกับจำเลยให้กับโจทก์ ซึ่งไม่ใช่เป็นการโอนสิทธิเรียกร้องจึงเท่ากับขายความเป็นการผิดศีลธรรมอันดี ไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้โอนกันได้และไม่ใช่เป็นการปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เช่น มอบอำนาจหรือแต่งทนายไว้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องในนามตนเอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า สวนยาง ๑ แปลงเป็นของนายหว่านและนางโฟโหมยกับบุตรผู้เยาว์ โดยได้รับมรดกจากนายเจนยิ่นนายหว่านได้ไปยื่นคำร้องขอประกาศขายให้แก่จำเลยที่ ๑ แต่ภายหลังไม่ตกลงกัน ก่อนครบกำหนดประกาศ ๖ – ๗ วัน จำเลยที่ ๒ ได้หลอกลวงให้นายหว่านเซ็นชื่อในใบมอบฉันทะโดยว่าจะไปร้องขอถอนการให้ นายหว่านหลงเชื่อจึงเซ็นให้ไป บัดนี้ปรากฏว่าสวนยางรายนี้ถูกขายให้จำเลยที่ ๑ แล้ว โดยจำเลยที่ ๒ ได้รับรองมอบฉันทะจากนายหว่านเป็นผู้ขายแทนแต่โดยเหตุที่นางโฟโหมยและนายหว่านไม่สามารถฟ้องคดีได้เอง จึงได้โอนสิทธิเรียกร้องทั้งนี้ให้โจทก์และโจทก์ได้บอกกล่าวให้จำเลยขายแล้ว จึงขอให้ทำลายสัญญาซื้อขายที่ดินรายนี้และให้จำเลยคืนที่ดินรายนี้ให้โจทก์ จำเลยให้การว่าการซื้อขายที่ดินรายนี้เป็นไปโดยสุจริต จำเลยที่ ๑ ได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๒๙๙, ๑๓๐๐, ๑๓๒๙ ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ และตัดฟ้องว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง และข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำพยานฝ่ายจำเลย พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ฟังว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยได้ให้การต่อสู้คดีไว้ว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อจำเลยแก้อุทธรณ์ จำเลยก็ยังโต้แย้งความข้อนี้อยู่ ประเด็นข้อนี้ยังไม่ยุติ ส่วนที่ว่าการโอนระหว่างนายหว่าน นางโฟโหมยกับโจทก์เป็นการโอนสิทธิเรียกร้องนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฟ้องก็ดี ตามหนังสือโอนนี้โจทก์ส่งศาลก็ดี มีข้อความชัดว่า เป็นการโอนการฟ้องร้อง เท่ากับขายความเป็นการผิดศีลธรรมอันดี ไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้โอนกันได้และไม่ใช่เป็นการปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เช่น มอบอำนาจ หรือแต่งทนายไว้ความเป็นต้น
พิพากษายืน

Share