แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
การขอแก้ไขคำให้การโดยอ้างว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้นเป็นคดีเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะยื่น คำร้องในวันชี้สองสถานก็ไม่ต้องห้าม แต่ศาลชั้นต้นยังมิได้ดำเนินการ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 181 ศาลฎีกาจึงให้ ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นปฏิบัติ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 181 แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยซื้อหุ้นตามสัญญาจะซื้อขาย จำเลยให้การปฏิเสธว่าสัญญาจะซื้อขายไม่กำหนดวันซื้อขายแน่นอน จำเลยยังไม่ผิดสัญญาและได้บอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายไปแล้ว จำเลยขอแก้ไขคำให้การในวันชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยอาจยื่นก่อนวันชี้สองสถานได้ และคดีไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนให้ยกคำร้อง จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คำร้องขอแก้ไขคำให้การของจำเลยฉบับลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2528 ขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยเป็นข้อ 10 ความว่า จำเลยขอให้การปฎิเสธว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะการซื้อขายหุ้นดังกล่าวต้องทำเป็นหนังสือแต่โจทก์ทั้งหมดมิได้รับความยินยอมจากภริยาและสามี ดังนั้น โจทก์ทั้งหมดจึงไม่มีอำนาจฟ้อง มีปัญหาพิจารณาตามฎีกาของจำเลยว่าสมควรอนุญาตให้จำเลยแก้ไขคำให้การได้หรือไม่พิเคราะห์แล้วเห็นว่าเป็นการขอแก้ไขคำให้การอ้างว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องอันเป็นคดีเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะยื่นคำร้องในวันชี้สองสถานก็ไม่ต้องห้าม แต่ศาลชั้นต้นยังมิได้ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 181”
พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 181แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลในชั้นนี้ให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำสั่งหรือคำพิพากษาใหม่
