แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยมียศเพียงนายเรือตรี แต่ตุลาการศาลทหารกลางที่เป็นนายทหารพิจารณาพิพากษาคดีพร้อมกับตุลาการผู้รักษาพระธรรมนูญอีก 2 นายนั้นเป็นนายทหารชั้นพลโททั้ง 3 นาย ไม่มีตุลาการที่เป็นนายทหารคนใดมียศต่ำกว่าจำเลย ฉะนั้นฐานะของตุลาการศาลทหารกลางที่เป็นนายทหารพิจารณาพิพากษาคดีของจำเลยจึงเป็นอันชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยพยายามฆ่าคนและกล่าววาจาอาฆาตมาดร้ายว่า จะเอาชีวิตผู้บังคับบัญชาของจำเลย ขอให้ลงโทษ
ศาลมณฑลทหารเรือที่ 2 พิพากษาลงโทษจำเลยฐานกล่าววาจาอาฆาตมาดร้ายผู้บังคับบัญชาตามกฎหมายลักษณะอาญาทหารมาตรา 41 ข้อหาอื่นให้ยกเสีย
ศาลทหารกลางพิพากษายืน
โจทก์ฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาเห็นว่า ฎีกาของโจทก์ส่วนมากเถียงในข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามตามพระธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. 2477 มาตรา 47
ส่วนฎีกาที่เป็นข้อกฎหมาย ที่คัดค้านว่า คำพิพากษาของศาลทหารกลางในคดีเรื่องนี้ปรากฏว่า ตุลาการเป็นนายทหารชั้นนายพลถึง 3 นาย ไม่มีนายทหารชั้นนายพันเอกหรือนาวาเอกหรือนายเรือเอกหรือนายร้อยเอกเลย จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยในคดีนี้มียศเพียงนายเรือตรี แต่ตุลาการศาลทหารกลางที่เป็นนายทหารพิจารณาพิพากษาคดีนี้ พร้อมกับตุลาการผู้รักษาพระธรรมนูญอีก 2 นายนั้น เป็นนายทหารผู้ใหญ่ชั้นพลโททั้ง 3 นายไม่มีตุลาการที่เป็นนายทหารใดมียศต่ำกว่าจำเลย หรือแม้เพียงเทียบเท่ากับจำเลยเลย ฐานะของตุลาการของศาลทหารกลางที่เป็นนายทหารพิจารณาพิพากษาคดีนี้ จึงเป็นอันชอบด้วยกฎหมายแล้ว
จึงพิพากษายืน