คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1420/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เดิมจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ในวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยยื่นคำร้องขอยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ยื่นคำให้การ ครั้นถึงวันสืบพยานจำเลย จำเลยและทนายก็ไม่มาศาลตามนัด หลังจากที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยานแล้ว ทนายจำเลยจึงมา ศาลทั้งพยานที่จะนำสืบก็ไม่นำมา ดังนี้พฤติการณ์น่าเชื่อว่าจำเลย ประวิงคดี การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าวจึงชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 กู้เบิกเงินเกินบัญชีจากโจทก์โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน เมื่อเลิกสัญญาแล้ว จำเลยทั้งสองไม่ชำระหนี้ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสอง จำเลยที่ 1 ให้การว่าได้ชำระเงินแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยแล้ว ขอให้ยกฟ้อง จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาในวันนัดสืบพยานจำเลย ทนายจำเลยที่ 1 มาศาลล่าช้าและไม่มีพยานมาศาล ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีถือว่าจำเลยที่ 1 ไม่ติดใจสืบพยานศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ จำเลยที่ 1อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า ที่จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอเลื่อนสืบพยานจำเลยที่ 1 ไปเพราะมีเหตุจำเป็น ที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยที่ 1 เลื่อนสืบพยานเป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่าเดิมศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การแล้ว เมื่อวันสืบพยานโจทก์ จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นก็อนุญาตให้ยื่นคำให้การได้ เมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลยที่ 1 ทั้งทนายความและตัวจำเลยที่ 1 ก็ไม่มาศาลตามกำหนดเวลาที่ศาลนัด ครั้นเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยที 1ไม่ติดใจสืบพยาน ทนายจำเลยที่ 1 จึงมาศาลภายหลังที่ศาลมีคำสั่งแล้ว พยานที่จะสืบก็ไม่นำมาศาล พฤติการณ์น่าเชื่อว่าจำเลยที่ 1 ประวิงคดี ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยที่ 1 ไม่ติดใจสืบพยานนั้นชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share