คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 142/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีความผิดต่อส่วนตัว โจทก์ยื่นคำร้องระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับจำเลยต่อไป ขอให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี พอแปลได้ว่าโจทก์มีความประสงค์ขอถอนฟ้องเมื่อจำเลยไม่คัดค้าน ศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 จำคุก4 เดือน
จำเลยฎีกา
ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องว่า โจทก์ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับจำเลยต่อไป ขอให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีจำเลยไม่คัดค้าน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำร้องของโจทก์ดังกล่าวพอแปลได้ว่า โจทก์มีความประสงค์ขอถอนฟ้อง คดีนี้เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว โจทก์จะถอนฟ้องเวลาใดก่อนคดีถึงที่สุดก็ได้ และจำเลยไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ เมื่อโจทก์ถอนฟ้องแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)จึงให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความ.

Share