แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจกฟ้องว่าจำเลยเปนเจ้ามือและหัวเบี้ยไนการเล่นการพนันโปปั่นทางพิจารนาได้ความว่าจำเลยเปนเพียงผู้เข้าเล่น(ลูกค้า) ลงโทสไ้ไม่ถือว่าทางพิจารนาได้ความต่างกับฟ้อง
โจกฟ้องว่าจำเลยเคยต้องโทสและพ้นโทสมายังไม่เกิน 5 ปีขอไห้เพิ่มโทส จำเลยรับว่าเคยต้องโทสมาแล้วจิงดังนี้ถือว่ารับถึงข้อพ้นโทสมาไม่เกิน 5 ปีด้วยเพิ่มโทสได้
ย่อยาว
โจทฟ้องว่าจำเลยกับพวกที่หลบหนีสมคบกันเล่นการพนันโปปั่น โดยจำเลยที่ ๑ เปนเจ้ามือ จำเลยที่ ๒ เปนหัวเบี้ยรับหินรับใช้ จำเลยที่ ๓ เปนผู้เข้าเล่น และจำเลยที่ ๑ เคยต้องโทสจำคุก ๑๕ ปี ถานปล้นทรัพย์พ้นดทสมาได้ประมาณ ๓ ปี ยังไม่พ้นกำหนด ๕ ปี ขอไห้ลงโทสและเพิ่มโทส
จำเลยที่ ๓ รับสารภาพ สาลชั้นต้นพิพากสาลงโทสไปแล้ว ส่วนจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ได้ความเพียงว่าตำหรวดจับได้ไนวงเล่นซึ่งตกหยู่ไนข้อสันนิถานของกดหมายว่าจำเลยทั้งสองเปนผู้เล่นและจำเลยที่ ๑ รับว่าเคยต้องโทสมาแล้วจิง
สาลชั้นต้นพิพากสายกฟ้อง โดยเห็นว่าข้อเท็ดจิงที่ไ้ความตามทางพิจารนาต่างกับข้อเท็ดจิงดังกล่าวไนฟ้อง
สาลอุธรน์พิพากสาว่า จำเลยทั้ง ๒ มีความผิดถานเปนผู้เล่นดปปั่น ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ส. ๒๔๗๘ มาตรา ๑๒ หาไข่เปนเรื่องทางพิจารณาได้ความต่างกับฟ้องไม่และข้อที่ไห้เพิ่มโทสจำเลยที่ ๑ ฟังไม่ได้ว่าจำเลยพ้นโทสมายังไม่เกิน ๕ ปีตามฟ้อง จะเพิ่มโทสจำเลยที่ ๑ ไม่ได้
โจทจำเลยดีกา สาลดีกาเห็นว่าการที่จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ หยู่ไนวงเล่นการพนันโปปั่นก็ต้องสันนิถานว่าจำเลยเล่นการพนันรายนี้ตามมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ส.๑๔๗๘ การที่โจกหยันยายฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ เปนเจ้ามือ จำเลยที่ ๒ เปนหัวเบี้ย ก็หมายความเพียงว่า โจกกล่าวหาหนักกว่าผู้เล่นไนถานะลูกค้า หาไช่ทางพิจารนาได้ความต่างกับฟ้องไม่
ส่วนข้อเพิ่มโทสโจทระบุว่าจำเลยเคยต้องโทสจำคุก ๑๕ ปีพ้นโทสมาไม่เกิน ๕ ปีหลับมากะทำผิดขอไห้เพิ่มโทสตามมาตรา ๗๒ จำเลยรับว่าเคยต้องโทสมาแล้วจึง สาลดีกาเห็นว่าคำรับของจำเลยที่ ๑ ดีความได้ว่ารับตามที่โจทฟ้องในข้อนี้โดยตลอด ไม่มีข้อโต้แย้งอันได ฟังได้ว่าจำเลยเคยต้องโทสและพ้นโทสมาแล้วจิงตามฟ้อง เพิ่มโทสได้ จึงพิพากสาแก้คำพิพากสาสาลอุธรน์ไห้เพิ่มโทสจำเลยที่ ๑ +