คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2487

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สุเหร่าของชาวอิสลามไม่ไช่นิติบุคคล
เอกชนจะทำสัญญาเพื่อโอนที่ดินสุเหร่าตามลำพังคนเดียวไม่ได้

ย่อยาว

โจทฟ้องว่าจำเลยเปนโต๊ะอิหม่ำวัดคิดกู้เงินโจทไป ๗๕๕ บาท และมอบที่ไห้โจทครอบครอง ถ้าไม่ไช้เงินไน ๓ ปีจะโอนที่ไห้โจท จำเลยไม่ไช้เงินมา ๕ ปีแล้ว ขอไห้จำเลยโอนที่
จำเลยต่อสู้ว่าทำสัญญาเพื่อ+วงชาวอิสลามและจำเลยไม่มีสิทธิโปนที่สุเหร่าไห้โจท
สาลชั้นต้นฟังว่าได้มีการกู้กันโดยสุจริต แต่จะบังคับไห้จำเลยโอนที่ของสุเหร่าไห้โจทไม่ได้ จึงพิพากสายกฟ้อง
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์วินิฉัยว่าสุเหร่าจะเปนเจ้าของทรัพย์ไม่ได้ ที่ดินจึงเปนของชาวคนะอิสลาม จำเลยลงนามไนสัญญาผู้เดียว คนะอิสลามไม่ได้ลงนามด้วย จำเลยจึงไม่สามาถโอนที่ดินส่วนรวมไห้แก่โจทได้
โจทดีกา สาลดีกาวินิฉัยว่า เมื่อสุเหร่าไม่ไช่นิติบุคคลแล้ว จะมอบไห้จำเลยหรือผู้ไดทำแทนไม่ได้สัญญาที่จำเลยทำจึงไม่มัดสุเหร่า จึงพิพากสายืนตามสาลอุธรน์

Share