คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 142/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีเดิมมีแผนที่พิพาทซึ่งคู่ความรับกันแล้ว ชั้นบังคับคดีต้องถือแผนที่นั้นเป็นหลักโดยไม่ต้องคำนึงถึงจำนวนเนื้อที่

ย่อยาว

คดีเดิมโจทก์ชะนะโดยศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท ภายหลังจำเลยปลูกโรงเรือนขึ้นใหม่ในที่เดิม โจทก์จึงขอให้บังคับขับไล่ จำเลยเถียงว่าปลูกนอกเขตต์ที่พิพาท ศาลชั้นต้นเห็นว่าตามแผนที่ที่โจทก์นำรังวัดคิดเนื้อที่ได้ ๔๕ ไร่ ๘๔ วา แต่ฟ้องโจทก์กล่าวถึงเนื้อที่ว่ามีประมาณ ๒๗ ไร่ ๓ งาน ๘๐ วา จึงวินิจฉัยว่าแม้โจทก์เป็นฝ่ายชะนะคดี แต่ก็ไม่ควรได้เนื้อที่เกินกว่าคำฟ้อง เรื่องเนื้อที่จึงยังเป็นข้อสงสัยไม่พอฟังว่าจำเลยขัดขืนการบังคับจึงสั่งยกคำร้องของโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเขตต์ที่พิพาทคดีนี้ทั้ง ๒ ฝ่ายได้นำเจ้าพนักงานรังวัดทำแผนที่พิพาทไว้ และโรงเรือนที่จำเลยปลูกนี้อยู่ในเขตต์ที่ของโจทก์ตามแผนที่พิพาทนั้น แม้จำนวนเนื้อที่จะไม่ตรงกันที่โจทก์กล่าวในฟ้อง แต่ฟ้องโจทก์ก็เป็นเพียงการประมาณเท่านั้น จึงพิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ดำเนินการบังคับคดีไปตามเขตต์ในแผนที่พิพาทเดิม.
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าแผนที่พิพากในคดีเดิมนั้นคู่ความก็รับกันอยู่แล้ว ชั้นบังคับคดีจึงไม่มีเหตุจะบังคับเป็นอย่างอื่นนอกจากขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทนั้น ข้อที่ว่าจำนวนเนื้อที่แตกต่างกันก็เห็นว่าเป็นการประมาณเท่านั้น จึงพิพากษายืน

Share