แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทย์ฟ้องว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายขอให้ส่งตัวไปกักัน เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายขอให้ส่งตัวไปกักกัน เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายก็ไม่ควรลงโทษกักกันแก่จำเลยจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายหรือไม่เป็นดุลยพินิจของศาล ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.118 ศาลเดิมลงโทษจำเลยตาม ม.254 และส่งไปกักกัน 3 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ว่าไม่ควรส่งไปกักกันดังนี้ ฏีกาในข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้ (หมายเหตุ ครั้งก่อนจำเลยต้องโทษฐานชิงทรัพย์ตามกฏหมายอาญา ม.298 ครั้งที่ 2 ฐานลักทรัพย์ตาม ม.288)
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยเคยต้องโทษมาแล้ว ๒ ครั้ง จำเลยบังอาจใช้มีดปาดตาลใส่ฝักตีนางผูกน้องของจำเลย ทั้ง ๆ ที่มีดอยู่ในผักจนนางผูกบาดเจ็บ โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญา ม.๒๕๔ และขอให้ส่งตัวไปกักกัน ตาม พ.ร.บ. กักกันฯ
ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ม.๒๕๔ กฏหมายอาญา กับให้ส่งตัวไปกักกันไว้มีกำหนด ๓ ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า โทษครั้งแรกจำเลยได้รับมาเป็นเวลา ๗ – ๘ ปีแล้ว จำเลยทำผิดครั้งนี้ถึงแม้จะเป็นเหตุร้าย แต่จำเลยกระทำโดยโทษะจริต ประกอบกับเหตุผลในคดีไม่พอฟังว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายพิพากษาแก้ศาลชั้นต้นในข้อที่ไม่ควรลงโทษกักกันนอกนั้นยืนตาม
โจทก์ฏีกา
ศาลฎีกาพิพากษาว่าถึงแม้คดีจะอยู่ในบังคับตาม พ.ร.บ. กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายก็จริงแต่การจะส่งตัวไปกักกันหรือไม่เป็นดุลยพินิจของศาล ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้ใช้ดุลยพินิจมาชอบแล้ว พิพากษายืนตาม