คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1196/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่ได้มีการชี้สองสถานกะประเด็นข้อนำสืบกันไว้แล้วจำเลยจะมาร้องขอเพิ่มเติมคำให้การมีประเด็นข้อทุ่มเถียงที่จะต้องสืบต้องวินิจฉัยอันไม่เกี่ยวแก่ความสงบเรียบร้อยของประชาชนนั้นไม่ได้ การคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาจะต้องทำเป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง และต้องยื่นภายในกำหนดอายุความ จะยื่นเป็นคำแถลงไม่ได้

ย่อยาว

จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าคดีนี้ทุนทรัพย์ไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาทจะฎีกาได้แต่ข้อกฎหมาย ฎีกานี้มีข้อกฎหมาย ๓ ข้อ แต่ข้อ ๗ กับข้อ ๙ เป็นข้อมิได้ยกขึ้นว่าในชั้นอุทธรณ์จึงให้รับฎีกาแต่ฉะเพาะข้อ ๘ ข้อเดียว
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฎีกาข้อ ๘ ที่ว่าศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยไม่ชอบ เหตุว่าคำร้องนั้นขอเพิ่มกฎหมายเป็นคำร้องอาจทำได้ฝ่ายเดียวนั้นเห็นว่าศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องนั้นเสียโดยอาศัยประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.๑๘๐ วรรค ๒ เป็นการชอบแล้ว เพราะคดีได้มีการชี้สองสถานกะประเด็นข้อสืบไว้ก่อนแล้วและคดีก็ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนคำร้องของจำเลยเป็นคำร้องเพิ่มเติมคำให้การแก้คดี มีประเด็นข้อทุ่มเถียงที่จะต้องสืบต้องวินิจฉัย มิใช่แต่อ้างข้อกฎหมายเท่านั้นที่จำเลยว่าคำร้องของจำเลยเป็นคำร้องเพิ่มเติมกฎหมายซึ่งนับว่าเป็นคำร้องอาจทำได้ฝ่ายเดียวจึงไม่ตรงต่อความจริงและที่จำเลยยื่นคำแถลงคัดค้านการที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาข้ออื่นนั้น ไม่เป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่ยอมรับฎีกา ทั้งไม่ได้อุทธรณ์ภายในกำหนดตามประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.๒๓๔,๒๔๗ จึงไม่จำต้องวินิจฉัย พิพากษาให้ยกฎีกาจำเลยเสีย

Share