คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1418/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้รับโอนที่ดินมือเปล่าทางทะเบียนโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนจากผู้โอนซึ่งไม่ใช่เจ้าของและไม่มีสิทธิครอบครอง ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300และผู้รับโอนนี้จะอ้างว่าได้สิทธิโดยการครอบครองก็ไม่ได้ เพราะครอบครองยังไม่ครบ 1 ปี
บริวารของผู้ครอบครองที่มิได้ต่อสู้ว่าได้สืบสิทธิมาจากผู้ครอบครองจะอ้างข้อต่อสู้ของผู้ครอบครองยันโจทก์ไม่ได้
การฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมมีอายุความ 10 ปี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของรวมในที่พิพาท ซึ่งปู่ของโจทก์ครอบครองแทนจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นภริยาน้อยของปู่โจทก์ได้เอาที่นี้ไปขายให้จำเลยที่ 2 โดยจำเลยทั้งสองรู้ว่าที่ดินนี้เป็นของโจทก์ ขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาซื้อขายนี้

จำเลยที่ 1 ให้การว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยที่ 1 โดยการซื้อมาจากนายมูล ฟ้องขาดอายุความ 1 ปี เพราะเป็นที่ดินมือเปล่า

จำเลยที่ 2 ให้การว่า ซื้อที่พิพาทโดยสุจริต ฟ้องขาดอายุความ 1 ปี

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ฟังไม่ได้ว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ แล้ววินิจฉัยว่าฟ้องไม่ขาดอายุความพิพากษากลับ

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์และนายชิดอุ๊ นายชิดส่วย ปู่โจทก์ครอบครองที่นี้แทนโจทก์และนายชิดอู๊ จำเลยที่ 1 เป็นเพียงบริวารของนายชิดส่วยไม่ใช่เจ้าของและไม่มีสิทธิครอบครอง จำเลยที่ 1 โอนทะเบียนขายที่พิพาทให้จำเลยที่ 2 นับถึงวันฟ้องยังไม่ครบ1 ปี แล้ววินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 แม้รับซื้อที่พิพาทโดยสุจริตและได้รับโอนทางทะเบียนก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 จำเลยที่ 2 ครอบครองไม่ถึง 1 ปี โจทก์จึงไม่หมดสิทธิเรียกร้อง โจทก์มิได้ฟ้องเรียกคืนการครอบครองจากนายชิดส่วยผู้ครอบครอง และจำเลยที่ 1 มิได้ต่อสู้ว่าสืบสิทธิมาจากนายชิดส่วยดังนั้นจำเลยที่ 1 จะยกเอาข้อต่อสู้ของนายชิดส่วยยันโจทก์ไม่ได้ ฟ้องให้เพิกถอนสัญญาที่จำเลยที่ 1 ทำกับจำเลยที่ 2 มีอายุความทั่วไป 10 ปี

พิพากษายืน

Share