แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นตั้งปัญหาว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่เป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ด้วย แต่เนื่องจากศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าหนังสือรับสภาพหนี้ที่โจทก์นำมาฟ้องมีมูลหนี้ที่ชอบด้วยกฎหมาย พิพากษายกฟ้อง จึงไม่ได้วินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ การที่โจทก์อุทธรณ์และศาลอุทธรณ์เห็นว่า ศาลชั้นต้นวินิจฉัยนอกประเด็น เพราะมิได้ตั้งประเด็นเกี่ยวกับมูลหนี้เดิมไว้ด้วย และเมื่อปรากฏว่าคู่ความได้นำพยานหลักฐานเข้าสืบจนสิ้นกระแสความแล้ว ศาลอุทธรณ์จึงมีอำนาจวินิจฉัยประเด็นเรื่องอายุความที่ศาลชั้นต้นยังมิได้วินิจฉัยได้โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้พิจารณาและพิพากษาใหม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นบุตรของนางลาน ศรีระอุดมเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2532 นางลานทำหนังสือรับสภาพหนี้กับโจทก์เป็นเงิน 35,000 บาท ตกลงให้ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15ต่อปี กำหนดชำระเงินคืนภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2533นางลานผิดนัดไม่ชำระหนี้ภายในกำหนด ต่อมานางลานถึงแก่ความตาย จำเลยในฐานะเป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตายจึงต้องรับผิดชำระหนี้ให้โจทก์ โจทก์ทราบว่านางลานถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2539 ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยถึงวันฟ้องอีก42,000 บาท รวมเป็นเงิน 77,000 บาท แก่โจทก์ กับให้จำเลยชำระดอกเบี้ยอีกอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงิน 35,000บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า หนังสือรับสภาพหนี้ทำขึ้นเมื่อวันที่ 28เมษายน 2532 แต่โจทก์นำคดีมาฟ้องเกินกว่าสองปีนับแต่วันทำหนังสือรับสภาพหนี้และเกินกว่าหนึ่งปีนับแต่นางลานถึงแก่ความตายฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์ฎีกาข้อแรกเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยประเด็นเรื่องอายุความโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ และไม่ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เห็นว่า ปัญหาว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่นั้น ศาลชั้นต้นตั้งเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ด้วย แต่เนื่องจากศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์นำสืบข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่าหนังสือรับสภาพหนี้ที่โจทก์นำมาฟ้องจำเลยมีมูลหนี้ที่ชอบด้วยกฎหมายแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ จึงไม่ได้วินิจฉัยปัญหาว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เมื่อคดีขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 3และศาลอุทธรณ์ภาค 3 เห็นว่า การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยดังกล่าวแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้น เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาท เป็นการไม่ชอบเพราะศาลชั้นต้นมิได้ตั้งประเด็นเกี่ยวกับมูลหนี้เดิมไว้ด้วย และเมื่อปรากฏว่าคดีนี้คู่ความทั้งสองฝ่ายได้นำพยานหลักฐานเข้าสืบในประเด็นข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้จนสิ้นกระแสความและพิจารณาสิ้นสุดแล้ว ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ก็มีอำนาจวินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นยังมิได้วินิจฉัยได้ โดยไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาใหม่ดังนี้ การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยประเด็นเรื่องฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ จึงเป็นการชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน