คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การนับอายุความนั้น ป.พ.พ. มาตรา 169 ให้นับเริ่มแต่ขณะที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป เมื่อสัญญาเช่าได้กำหนดให้ผู้เช่าชำระค่าเช่าภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน หากผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่าตามกำหนดเวลาดังกล่าวก็ถือว่าผู้เช่าตกเป็นฝ่ายผิดนัดผู้ให้เช่าย่อมบังคับสิทธิเรียกร้องของตนได้ทันที โจทก์บังคับตามสิทธิเรียกร้องของตนได้ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2524 ซึ่งตาม ป.พ.พ.มาตรา 166 โจทก์จะต้องฟ้องเรียกให้จำเลยชำระค่าเช่าภายในกำหนดระยะเวลา 5 ปี ค่าเช่าที่โจทก์จะเรียกเก็บเป็นเดือนสุดท้ายคือวันที่ 5 สิงหาคม 2524 แต่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่าในวันที่ 28 สิงหาคม 2529 คดีโจทก์สำหรับค่าเช่าจึงขาดอายุความเมื่อหนี้ค่าเช่าซึ่งเป็นหนี้ประธานขาดอายุความ หนี้ที่เป็นเบี้ยปรับซึ่งเป็นอุปกรณ์ก็ขาดอายุความด้วย ตาม ป.พ.พ. มาตรา 190.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ทำสัญญาให้จำเลยเช่าบ้านของโจทก์มีกำหนด 9 เดือน อัตราค่าเช่าเดือนละ 300 บาท ชำระล่วงหน้าภายในวันที่ 5 ของทุก ๆ เดือน หากชำระเกินกำหนดต้องเสียค่าปรับร้อยละ 1 ต่อเดือน ครบกำหนดสัญญาแล้วจำเลยและบริวารไม่ยอมออกไป โจทก์ผ่อนผันให้อยู่จนถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2524 ครบกำหนดเวลาผ่อนผันแล้วจำเลยคงครอบครองอาศัยอยู่ ขอให้บังคับจำเลยชำระค่าเช่าพร้อมด้วยเบี้ยปรับเป็นเงิน 14,669.70 บาท และชำระค่าเสียหายพร้อมเบี้ยปรับเป็นเงิน 175,109.76 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 9,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จให้โจทก์
จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การว่า จำเลยได้ทำสัญญาเช่าบ้านของโจทก์ เมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลงแล้ว โจทก์ให้จำเลยและผู้เช่ารายอื่นอยู่ต่อโดยไม่ต้องเสียค่าเช่า โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเช่าและเบี้ยปรับกับค่าเสียหายจากจำเลย สิทธิเรียกร้องค่าเช่าและค่าเสียหายขาดอายุความตามกฎหมายแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาจะต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์มีว่าคดีโจทก์สำหรับค่าเช่าและเบี้ยปรับขาดอายุความหรือไม่ เห็นว่าการนับอายุความนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 169 ให้นับเริ่มแต่ขณะที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป และตามสัญญาเช่าเอกสารหมาย จ.7 ข้อ 3 ระบุว่า ผู้เช่าจะต้องชำระค่าเช่าล่วงหน้าภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน ดังนั้นเมื่อสัญญาเช่าได้กำหนดให้ผู้เช่าชำระค่าเช่าภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน หากผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่าตามกำหนดเวลาดังกล่าวก็ถือว่าผู้เช่าตกเป็นฝ่ายผิดนัด ผู้ให้เช่าย่อมบังคับสิทธิเรียกร้องของตนได้ทันที และในกรณีนี้โจทก์ย่อมบังคับสิทธิเรียกร้องของตนได้ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2524 และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166โจทก์จะต้องฟ้องเรียกให้จำเลยชำระค่าเช่าภายในกำหนดระยะเวลา 5 ปีซึ่งค่าเช่าที่โจทก์จะเรียกเก็บเป็นเดือนสุดท้ายคือวันที่ 5สิงหาคม 2524 แต่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่าในวันที่ 28 สิงหาคม 2529คดีโจทก์สำหรับค่าเช่าจึงขาดอายคุวาม ส่วนเบี้ยปรับนั้น เป็นเรื่องที่จำเลยไม่ชำระหนี้ค่าเช่าซึ่งเป็นหนี้ประธาน เมื่อหนี้ค่าเช่าขาดอายคุวาม หนี้ที่เป็นเบี้ยปรับซึ่งเป็นอุปกรณ์ก็ขาดอายุความด้วย กรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา190…”
พิพากษายืน.

Share