แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์เป็นเจ้าของแผงลอยพิพาท ได้ทำสัญญาให้ ช. เช่า เมื่อ ช. ตาย สัญญาเช่าจึงระงับไป จำเลยผู้เป็นน้องชายของ ช. เข้าใช้แผงลอยนี้ต่อมาโดยไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ เป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย แม้โจทก์จะได้ทำสัญญาให้ ก. เช่าเพื่อสร้างอาคารใหม่ก็ไม่ทำให้อำนาจฟ้องของโจทก์ระงับไป
โจทก์ทำสัญญาให้ ก. เช่าตลาดโดยให้รื้อตึกเก่าและแผงลอยออกแล้วสร้างตึกใหม่และมอบอำนาจให้ ก. เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ผู้เช่าตึกและแผงลอย ไม่ใช่เป็นเรื่องโจทก์ตั้งให้ ก. เป็นตัวแทนไปตกลงเรื่องจะให้ค่าขนย้ายออกจากแผงลอย การที่ ก. ตกลงจะให้ค่าขนย้ายแก่ผู้ที่อยู่ในแผงลอย จึงไม่ผูกพันโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตลาดมรกต (ตลาดท่าเตียน) โดยให้เช่าเป็นแผงลอยในตลาดแผงลอยหมายเลขที่ 32/10 นายเชื้อ เอี่ยมประเสริฐ เป็นผู้เช่า ต่อมานายเชื้อตายสัญญาเช่าระหว่างนายเชื้อกับโจทก์จึงระงับ จำเลยซึ่งเป็นน้องชายของนายเชื้อได้เข้าใช้แผงลอยนั้นประกอบการค้าโดยมิได้รับอนุญาต หรือความยินยอมของโจทก์และไม่มีนิติสัมพันธ์อย่างใดเป็นการละเมิด ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้บังคับขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากแผงลอยพิพาทและใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า เดิมมารดาจำเลยกับนายเชื้อได้เช่าแผงลอยพิพาทร่วมกัน แล้วมารดาโอนสิทธิการเช่าให้จำเลย แต่คงทำสัญญาเช่าในนามของนายเชื้อแต่ผู้เดียว เมื่อนายเชื้อตายจำเลยจึงเป็นผู้เช่าต่อมา โจทก์มอบให้บริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด รับเหมาปรับปรุงตลาดท่าเตียน ได้รื้อตึกเก่าและตลาดแผงลอยทั้งหมดออกแล้วปลูกตึกใหม่ และโจทก์ยอมให้บริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัดมีสิทธิเช่าตึกและตลาดที่สร้างใหม่ 10 ปี ซึ่งเป็นสัญญาต่างตอบแทนแล้วโจทก์ได้ให้สำนักงานพระคลังข้างที่มีหนังสือแจ้งให้ผู้เช่าตึกและแผงลอยไปติดต่อกับบริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด จำเลยจึงไปตกลงกับบริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด ยอมขนย้ายออกไป และบริษัทนั้นยอมให้ค่าขนย้ายแก่จำเลยเป็นเงิน8,000 บาทจนบัดนี้ จำเลยก็ยังไม่ได้ค่าขนย้ายการที่จำเลยอยู่ในแผงลอย ที่เช่าจึงไม่เป็นการละเมิด จำเลยถือว่าบริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด เป็นตัวแทนของโจทก์ โจทก์จึงต้องรับผิดชำระค่าขนย้ายให้แก่จำเลย และสิทธิครอบครองตลาดแผงลอยยังอยู่ในความครอบครองของบริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยขอให้ยกฟ้อง และให้โจทก์ชำระค่าขนย้าย 8,000 บาทแก่จำเลย
ศาลชั้นต้นสั่งรับคำให้การ แต่ไม่รับฟ้องแย้ง และสั่งงดสืบพยานแล้วพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวาร
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำให้การและคำแถลงรับกันว่าเดิมแผงลอยพิพาทนี้นายเชื้อได้ทำสัญญาเช่ากับโจทก์ ต่อมานายเชื้อตายสัญญาเช่าระงับไปแล้ว จำเลยได้ใช้แผงลอยพิพาทต่อมาครั้น พ.ศ. 2505 โจทก์ทำสัญญามอบให้บริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด ปรับปรุงตลาดโดยรื้อตึกเก่าและแผงลอยทั้งหมด แล้วสร้างตึกใหม่โจทก์ยังได้มอบอำนาจให้บริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด ฟ้องขับไล่ผู้เช่าตึกแถวและตลาดแผงลอยด้วยต่อมาบริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด กับจำเลยได้ตกลงทำสัญญากันว่า บริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด ตกลงให้เงินจำเลยเป็นค่าขนย้ายออกจากแผงลอยพิพาท 2,000 บาท แต่จำเลยยังไม่ได้รับเงินค่าขนย้าย จำเลยจึงยังไม่ยอมออกไป ต่อมาบริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด ฟ้องโจทก์ต่อศาลแพ่งศาลแพ่งพิพากษาว่าโจทก์คดีนี้มีสิทธิเลิกสัญญากับบริษัทกรุงธนสถาปัตย์จำกัด บริษัทกรุงธนสถาปัตย์ กำลังอุทธรณ์ขอให้ใช้ค่าเสียหาย
เห็นว่าแผงลอยพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ โจทก์ให้นายเชื้อเช่าโดยทำสัญญาเช่ากันไว้ ต่อมา นายเชื้อตาย สัญญาเช่าจึงระงับไปแล้ว การที่จำเลยเข้าใช้แผงลอยพิพาทต่อมานั้นจึงเป็นการเข้าใช้ประโยชน์ โดยจำเลยกับโจทก์ไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน เมื่อเข้าใช้โดยปราศจากสิทธิเป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย แม้โจทก์จะได้ทำสัญญาให้บริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด เช่าเพื่อปลูกสร้างอาคารขึ้นใหม่ก็ไม่ทำให้อำนาจฟ้องของโจทก์ระงับไป
การที่บริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด ตกลงกับจำเลยเพื่อให้ขนย้ายออกจากแผงลอยพิพาทก็เป็นเรื่องระหว่างบริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัดกับจำเลยหาได้ผูกพันโจทก์ด้วยไม่
ตามเอกสารเรื่องโจทก์ให้บริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด เช่าที่ดินบริเวณตลาดท่าเตียนเพื่อปลูกสร้างอาคาร กับเรื่องโจทก์มอบอำนาจให้บริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ผู้เช่าตึกแถวและแผงลอย มิใช่เป็นเรื่องโจทก์ตั้งบริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด เป็นตัวแทนไปตกลงกับจำเลยในเรื่องจะให้ค่าขนย้ายเพื่อออกจากแผงลอยพิพาทแต่อย่างใด การตกลงระหว่างบริษัทกรุงธนสถาปัตย์ จำกัด กับจำเลยจึงไม่ผูกพันโจทก์
พิพากษายืน