แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดสังหาริมทรัพย์อันจำเลยครอบครองใช้สอยอยู่เป็นประจำ แม้ผู้ร้องขัดทรัพย์จะอ้างว่าซื้อจากจำเลยแต่ก็หามีหลักฐานอ้างอิงไม่ ย่อมต้องถือว่าทรัพย์นั้นยังเป็นของจำเลยอยู่
รถจักรยาน 3 ล้อซึ่งเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดแม้ผู้ร้องจะรับจำนำไว้ก็ดี ผู้ร้องก็หามีสิทธิจะเรียกขอให้ศาลปล่อยทรัพย์นี้ได้ไม่ คงเรียกร้องให้บังคับตามสิทธิของตนตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นเท่านั้น
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์นำยึดทรัพย์รวม 12 อันดับว่าเป็นของจำเลยผู้ร้องร้องว่าทรัพย์อันดับ 2, 3, 4, 5, 6, 8 และ 11 เป็นของผู้ร้องอันดับ 1 และ 12 รับจำนำจากจำเลย ขอให้ปล่อยทรัพย์
ศาลแพ่งเห็นว่าทรัพย์เหล่านั้นเป็นของจำเลยและอันดับ 1 และ 12แม้ผู้ร้องรับจำนำไว้ก็ปล่อยทรัพย์นี้ไม่ได้ได้แต่จะเรียกร้องให้บังคับตามสิทธิของตนตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นเท่านั้น (ฎีกาที่ 944/2490) พิพากษายกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องขัดทรัพย์ฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาเห็นว่าทรัพย์เหล่านี้ (โต๊ะ ตู้ เตียง) ย่อมเป็นของที่ผู้ครอบครองอยู่ใช้สอยเป็นประจำ ผู้ร้องมิได้อยู่ที่ร้านค้านี้ทั้งการที่ผู้ร้องอ้างว่าซื้อของเหล่านี้จากจำเลยก็เป็นแต่กล่าวลอย ๆ หาหลักฐานที่อ้างอิงมิได้พฤติการณ์ทั้งปวงแสดงว่าทรัพย์เหล่านี้ยังเป็นของจำเลยอยู่
รถจักรยาน 3 ล้ออันดับ 1 และ 12 รวม 2 คัน นั้นผู้ร้องก็รับว่ายังเป็นของจำเลยอยู่ โจทก์จึงมีสิทธิยึดมาเพื่อชำระหนี้ของโจทก์ แม้จะว่าผู้ร้องรับจำนำไว้ ผู้ร้องก็ไม่มีสิทธิจะเรียกขอให้ศาลปล่อยทรัพย์ได้ดังแบบอย่างคำพิพากษาฎีกาที่ศาลล่างอ้าง
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาผู้ร้อง