คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1137/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อได้ความว่าโจทก์เป็นบุตรของเจ้ามรดก จำเลยเป็นแต่เพียงน้องของเจ้ามรดกและไม่ปรากฎว่าเจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้แก่ผู้ใดทรัพย์มรดกจึงตกได้แก่โจทก์ซึ่งเป็นทายาทชั้นบุตร จำเลยเป็นน้องเป็นทายาทอยู่ในอันดับถัดไปจึงไม่มีสิทธิในทรัพย์มรดกตาม ป.พ.พ.ม. 1630 ฉนั้นจำเลยจึงยกอายุความมรดก ป.พ.พ.ม. 1754 ขึ้นมาตัดฟ้องโจทก์ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่านายนากบิดาโจทก์ซึ่งเป็นพี่ชายจำเลยได้มีชื่อในที่ดินตำบลไผ่ดำ จังหวัดสระบุรี ร่วมกับนางน้อยและนายเจิม เนื้อที่ ๗๔ ไร่ ๓ งาน ๔ วา จำเลยเป็นผู้เก็บโฉนดเมื่อบิดาโจทก์ตาย โจทก์และมารดาได้ครอบครองต่อมา โจทก์ประสงค์จะขอแบ่งแยกโฉนดจำเลยไม่ยอมส่งโฉนด จึงขอให้บังคับและห้ามไม่ให้จำเลยขัดขวางในการที่โจทก์จะรับมรดกเฉพาะส่วนของบิดาโจทก์
จำเลยต่อสู้ว่าผู้มีชื่อในโฉนดทุกคนได้ขายฝากที่ดินนี้ไว้กับผู้มีชื่อ ต่อมานายนากและนายเจิมได้ขายส่วนของตนให้แก่จำเลยและนางน้อย จำเลยได้ครอบครองต่อมาแล้วได้ไถ่ถอนการขายฝากและครอบครองมา โจทก์จะเป็นบุตรนายนากหรือไม่ ๆ ทราบ และตัดฟ้องว่า โจทก์ฟ้องคดีนี้เกินอายุความมรดก ๑ ปีแล้วแม้โจทก์เป็นทายาทจริงก็ฟ้องไม่ได้
ต่อมาโจกท์ยื่นคำร้องขอแก้และเพิ่มเติมฟ้องว่า ก่อนบิดาโจทก์ตายบิดาเป็นหนี้ผู้อื่น ๘๐๐ บาท ได้มอบนาให้ทำต่างดอกเบี้ย ก่อนบิดาย้ายไปจังหวัดพิจิตรได้สั่งให้จำเลยให้ไถ่ถอนคืนจากเจ้าหนี้และให้จำเลยมีสิทธิทำนาส่วนของบิดาโจทก์ต่างดอกเบี้ยจนกว่าบิดาโจทก์จะมีเงินชำระหนี้จำเลย ต่อมาโจทก์จำเลยได้นำโฉนดไปที่หอทะเบียนเพื่อให้โจทก์ได้รับส่วนมรดกของบิดาโจทก์จำเลยก็ยินยอม แต่ขัดข้องเพราะโจทก์ไม่ทราบนามสกุลบิดา ต่อมาโจทก์ไปขอโฉนดจากจำเลยไม่ยอม
จำเลยให้การเพิ่มเติมต่อสู้ว่า คำขอแก้และเพิ่มเติมฟ้องของโจทก์ไม่จริง
คู่ความรับกันว่าที่พิพาทโฉนดเลขที่ ๕๘๖๙ เดิมมีชื่อนายนาก น.ส.จัน (นางจัน จำเลย) นางน้อย นายเจิม น.ส.หมิด เป็นผู้ถือกรรมสิทธิร่วมกันต่อมาได้มีการจดทะเบียนสลักหลังโฉนดดังนี้คือ
๒๕ มี.ค.๖๓ ผู้มีชื่อในโฉนดขายฝากไว้แต่นายเหลี่ยม หิรัญ
๒๑ พ.ค. ๗๑ ได้ไถ่ถอนการขายฝากคงมีชื่อบุคคลทั้ง ๕ เป็นผู้ถือกรรมสิทธิร่วมกัน
๒๘ มิ.ย.๗๑ จดทะเบียนโอนรับมรดกโดย น.ส.หมิด ถึงแก่กรรมคงเหลือชื่อนายนาก นางจัน นางน้อย และนายเจิม
๒๐ ก.พ.๙๔ นางจันจำนองที่ดินเฉพาะส่วนของตนแก่นางน้อย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยส่งโฉนดที่ ๕๘๖๙ เพื่อโจทก์จะได้ไปจัดการโอนรับมรดกต่อไป ฯลฯ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าก่อนนายนาก (บิดาโจทก์) ตายได้มีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิร่วมกับผู้อื่น และต่อมาโฉนดนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นลำดับตามที่คู่ความรับ เมื่อไม่ปรากฎว่านายนากได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้แก่ผู้อื่น ทรัพย์มรดกของนายนากจึงตกทอดได้แก่โจทก์ซึ่งเป็นทายาทชั้นบุตร จำเลยเป็นน้องนายนากอยู่ในอันดับถัดลงไปย่อมไม่มีสิทธิได้รับมรดกรายนี้ตาม ป.พ.พ.ม. ๑๖๓๐ จำเลยจึงยกอายุความมรดกขึ้นตัดฟ้องโจทก์ไม่ได้ตาม ป.พ.พ.ม. ๑๗๕๔ และไม่เชื่อว่าจำเลยได้ซื้อที่นี้ไว้ดังข้อต่อสู้
พิพากษายืน

Share