คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เคยเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในนามตนเอง ศาลพิพากษาว่าไม่มีอำนาจฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้องโดยมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริง ภายหลังจึงมาฟ้องจำเลยใหม่โดยเป็นผู้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิฟ้องจำเลย ดังนี้ ต้องถือว่าโจทก์ผู้ฟ้องคดีหลังนี้ เป็นคนละคนกับในคดีก่อน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์จำเลยตกลงท้ากันให้ศาลวินิจฉัยข้อกฎหมายเพียงข้อเดียวว่า โจทก์ฟ้อง คดีนี้ซ้ำกับสำนวนคดีแดงที่ ๑๔๔/๒๔๙๐ หรือไม่ ถ้าไม่เป็นฟ้องซ้ำ จำเลยยอมแพ้ตามฟ้องและทั้งสองฝ่ายไม่สืบพยาน
เรื่องมีว่า เดิมนายกาพย์ เลื้องฝุ้ย เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง ๒ ในนามของตนเอง ขอให้ทำลายหนังสือสัญญาซื้อขายที่สวนยางพาราระหว่างจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ โดยอ้างว่านายกาพย์ เลื่องฝุ้ย ได้รับโอนสิทธิเรียกร้องมาจากนางโฟโหมยกับพวกโจทก์ในคดีนี้ แต่ศาลฎีกาพิพากษาว่าเป็นการโอนสิทธิฟ้องร้อง เท่ากับชายความอันเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน โอนกันไม่ได้ นางกาพย์ไม่มีสิทธิที่จะเป็นโจทก์ฟ้องในนามตนเองได้ จึงพิพากษายกฟ้องโดยไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริง โจทก์ในคดีนี้ผู้เป็นเจ้าของที่ดิน จึงมอบอำนาจให้นายกาพย์เป็นโจทก์ฟ้องคดีนี้ใหม่ในนามของนางโพโหมยกับพวกเอง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ไม่เป็นฟ้องซ้ำ พิพกาษาให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ในคดีนี้เห็นได้ชัดว่า โจทก์เป็นผู้ฟ้องคดีนี้ เป็นคนละคนกับในคดีก่อน แม้นายกาพย์โจทก์ในคดีก่อน จะมาเป็นผู้รับมอบอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องแทนพวกโจทก์หลาย ๆ คนในคดีนี้ ก็ดี ก็หาใช่นายกาพย์เป็นโจทก์ฟ้องในนามของตนเอง เช่นนในคดีก่อนไม่ ทั้งในคดีก่อนศาลก็ยังมิได้ชี้ขาดในข้อเท็จจริงตามที่โต้เถียงกันมาไม่ แต่ได้ชี้ขาดในเรื่องอำนาจฟ้องของนายกาพย์ในคดีก่อนเท่านั้น จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
จึงพิพากษายืน

Share