คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในกรณีที่ลูกหน้าตายก่อนหนี้ถึงกำหนดชำระนั้นเจ้าหนี้มีสิทธิฟ้องเรียกจากผู้จัดการมฤดกได้ทันที แม้หนี้จะยังไม่ถึงกำหนดชำระก็ตาม อายุความมฤดก 1 ปีนั้นรวมถึงเจ้าหนี้ด้วย ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.94 ลูกหนี้จะขอนำพะยานบุคคลสืบว่าเงินที่ตนกู้ไปจากเจ้าหนี้หาใช่เป็นเงินของเจ้าหนี้ไม่นั้น ศาลไม่ยอมให้สืบ

ย่อยาว

คดีนี้ได้ความว่า เดิม ช.ได้ยืมเงินไปจากโจทก์ ๖๐๐๐ บาทตามสัญญาจะใช้ให้เสร็จภายใน พ.ศ.๒๔๗๙ เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๗ ข.ได้วายชนม์ จำเลยนี้เป็นผู้จัดการทรัพย์มฤดกของ ข.โจทก์จึงมีหนังสือมาทวงจำเลยให้ชำระหนี้จำเลยบิดพลิ้ว โจทก์จึงฟ้องคดีนี้ขอให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญา
ศาลล่างทั้ง ๒ พิพากษาต้องกัน ให้จำเลยใช้เงินตามฟ้อง
จำเลยฎีกาว่า ที่ศาลล่างไม่ยอมให้จำเลยขอสืบว่า เงินรายนี้ไม่ใช่ของโจทก์ ๆ เป็นตัวแทน เจ้าของเงินคือสมเด็จพระสังฆราชนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย แลการที่โจทก์ปิดบังชื่อเจ้าของเงินรายนี้ ชื่อว่าโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตกับว่าหนี้รายนี้ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
ศาลฎีกาเห็นว่าตามเอกสารปรากฎชัดว่า ข.ได้ยืมเงินไปจากโจทก์ แลเห็นว่าการที่เจ้าหนี้ไม่บอกว่าเงินที่ตนให้ยืมนั้นเป็นเงินของใครนั้น หาเรียกว่าเป็นการที่เจ้าหนี้ใช้สิทธิฟ้องร้องโดยไม่สุจริตไม่ แลเห็นว่าแม้หนี้ยังไม่ถึงกำหนดชำระ เจ้าหนี้ก็ย่อมฟ้องได้ จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง

Share