คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14118/2558

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

โจทก์เป็นผู้ได้มาซึ่งที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 อันเป็นอสังหาริมทรัพย์โดยการครอบครองปรปักษ์อันเป็นการได้มาโดยทางอื่นนอกจากนิติกรรม สิทธิของโจทก์ซึ่งยังไม่ได้จดทะเบียน จึงไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้จำเลยที่ 3 ผู้รับจำนองซึ่งไม่ใช่เจ้าของที่ดินเดิมอันถือว่าเป็นบุคคลภายนอกที่ได้สิทธิตามสัญญาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1299 วรรคสอง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดคือที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 ในคดีที่จำเลยที่ 3 เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 นั้น มีผลเพียงทำให้จำเลยที่ 3 ไม่อาจยึดนำที่ดินและบ้านพิพาทดังกล่าวออกขายทอดตลาดในคดีดังกล่าวได้เท่านั้น แต่ไม่มีผลกระทบถึงสิทธิในฐานะผู้รับจำนองของจำเลยที่ 3 ที่มีต่อทรัพย์จำนอง ซึ่งสิทธิตามสัญญาจำนองจะระงับไปก็ต่อเมื่อมีเหตุตาม ป.พ.พ. มาตรา 744 เท่านั้น อันได้แก่ เมื่อหนี้ที่ประกันระงับสิ้นไปด้วยเหตุประการอื่นใดมิใช่เหตุอายุความ เมื่อปลดจำนองให้แก่ผู้จำนองด้วยหนังสือเป็นสำคัญ เมื่อผู้จำนองหลุดพ้น เมื่อถอนจำนอง เมื่อขายทอดตลาดทรัพย์สินซึ่งจำนองตามคำสั่งศาล อันเนื่องมาแต่การบังคับจำนองหรือถอนจำนอง เมื่อเอาทรัพย์สินซึ่งจำนองนั้นหลุด เมื่อเหตุที่โจทก์อ้างไม่ใช่เหตุตามบทบัญญัติที่กล่าว สัญญาจำนองในที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 จึงยังไม่ระงับสิ้นไป โจทก์จึงไม่มีสิทธิเพิกถอนการจดทะเบียนจำนองในที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำพิพากษาแสดงว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 ตำบลหัวหมาก (หัวหมากใต้) อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 13.5 ตารางวา และที่ดินโฉนดเลขที่ 91006 ตำบลหัวหมาก (หัวหมากใต้) อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 13.5 ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้างบ้านเลขที่ 1991/31 ถนนรามคำแหง (สุขุมวิท 71) ซอยรามคำแหง 27 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์โดยการครอบครองปรปักษ์ และเพิกถอนการจดทะเบียนจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 ตำบลหัวหมาก (หัวหมากใต้)อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินซึ่งมีจำเลยที่ 3 เป็นผู้รับจำนอง หากจำเลยทั้งสามไม่ปฏิบัติตามขอให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสาม
จำเลยทั้งสามให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 และเลขที่ 91006 ตำบลหัวหมาก (หัวหมากใต้) อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างบ้านเลขที่ 1991/31 ถนนรามคำแหง (สุขุมวิท 71) ซอยรามคำแหง 27 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ส่วนที่เกิน 200 บาทให้แก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์นอกจากที่สั่งคืนให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงในชั้นฎีการับฟังเป็นยุติได้ว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2535 โจทก์ได้ทำสัญญาซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 91007 และเลขที่ 91008 ตำบลหัวหมาก (หัวหมากใต้) อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พร้อมทาวน์เฮาส์เลขที่ 1991/31 จากนายอดิศักดิ์ หลังจากนั้นโจทก์ได้เข้าครอบครองที่ดินและบ้านดังกล่าว ต่อมาวันที่ 25 พฤศจิกายน 2547 เจ้าพนักงานบังคับคดีมีประกาศเรื่องการยึดทรัพย์ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 14913/2532 ของศาลชั้นต้นมาปิดไว้ที่บ้านของโจทก์ โจทก์จึงทำการตรวจสอบพบว่าแท้จริงแล้วบ้านเลขที่ 1991/31 ที่โจทก์ซื้อและครอบครองอาศัยอยู่มิได้ตั้งอยู่บนโฉนดเลขที่ 91007 และ 91008 แต่ตั้งบนที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 และเลขที่ 91006 ตำบลหัวหมาก (หัวหมากใต้) อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีชื่อจำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 และจำเลยที่ 2 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดเลขที่ 91006 ซึ่งจำเลยที่ 1 ได้นำที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 พร้อมสิ่งปลูกสร้างจดทะเบียนจำนองไว้แก่จำเลยที่ 3 เพื่อเป็นหลักประกันหนี้ที่จำเลยที่ 1 กับพวกมีต่อจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 3 ได้ฟ้องให้จำเลยที่ 1 กับพวกให้ชำระหนี้และบังคับจำนอง ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 กับพวกชำระหนี้แก่จำเลยที่ 3 และมีการบังคับยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 เพื่อออกขายทอดตลาด โจทก์จึงฟ้องจำเลยทั้งสามเป็นคดีนี้ขอให้พิพากษาว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 และเลขที่ 91006 เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์โดยการครอบครองปรปักษ์และให้เพิกถอนการจดทะเบียนจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 และเลขที่ 91006 ตำบลหัวหมาก (หัวหมากใต้) อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พร้อมบ้านเลขที่ 1991/31 ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ ส่วนคำขออื่นให้ยก โจทก์อุทธรณ์ ฝ่ายจำเลยไม่อุทธรณ์
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์มีสิทธิขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนจำนองในที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 หรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า “ถ้ามีผู้ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยทางอื่นนอกจากนิติกรรม สิทธิของผู้ได้มานั้น ถ้ายังมิได้จดทะเบียนไซร้ ท่านว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนไม่ได้ และสิทธิอันยังมิได้จดทะเบียนนั้น มิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว” ดังนี้ โจทก์เป็นผู้ได้มาซึ่งที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 อันเป็นอสังหาริมทรัพย์โดยการครอบครองปรปักษ์อันเป็นการได้มาโดยทางอื่นนอกจากนิติกรรม สิทธิของโจทก์ซึ่งยังไม่ได้จดทะเบียนจึงไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้จำเลยที่ 3 ผู้รับจำนองซึ่งไม่ใช่เจ้าของที่ดินเดิมอันถือว่าเป็นบุคคลภายนอกที่ได้สิทธิตามสัญญาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต ที่โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยที่ 3 ไม่ใช่บุคคลภายนอกฟังไม่ขึ้น
ส่วนที่โจทก์อ้างว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดคือที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 ในคดีที่จำเลยที่ 3 เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 นั้น มีผลเพียงทำให้จำเลยที่ 3 ไม่อาจยึดนำที่ดินและบ้านพิพาทดังกล่าวออกขายทอดตลาดในคดีดังกล่าวได้เท่านั้น แต่ไม่มีผลกระทบถึงสิทธิในฐานะผู้รับจำนองของจำเลยที่ 3 ที่มีต่อทรัพย์จำนอง ซึ่งสิทธิตามสัญญาจำนองจะระงับไปก็ต่อเมื่อมีเหตุตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 744 เท่านั้น อันได้แก่ เมื่อหนี้ที่ประกันระงับสิ้นไปด้วยเหตุประการอื่นใดมิใช่เหตุอายุความ เมื่อปลดจำนองให้แก่ผู้จำนองด้วยหนังสือเป็นสำคัญ เมื่อผู้จำนองหลุดพ้น เมื่อถอนจำนอง เมื่อขายทอดตลาดทรัพย์สินซึ่งจำนองตามคำสั่งศาล อันเนื่องมาแต่การบังคับจำนองหรือถอนจำนอง เมื่อเอาทรัพย์สินซึ่งจำนองนั้นหลุด ดังนั้นเมื่อเหตุที่โจทก์อ้างไม่ใช่เหตุตามบทบัญญัติที่กล่าว สัญญาจำนองในที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 จึงยังไม่ระงับสิ้นไป โจทก์จึงไม่มีสิทธิเพิกถอนการจดทะเบียนจำนองในที่ดินโฉนดเลขที่ 91005 ได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share