คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน และได้ทำการสืบพยานจำเลยจนเสร็จสิ้นแล้วศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกเลื่อนไป ต่อมาในการนัดสืบพยานโจทก์นัดที่สองความจึงปรากฏว่าบัญชีระบุพยานของโจทก์ไม่มีลายมือชื่อผู้ระบุพยาน เพราะทนายคนเดิมของโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แต่ด้วยความพลั้งเผลอไม่ได้ลงชื่อ ดังนี้ กรณีเป็นเรื่องที่ทนายโจทก์คนเดิมได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้โดยชอบ เพียงแต่พลั้งเผลอไม่ได้ลงลายมือชื่อ โจทก์ทราบจึงขอแก้ไขให้ถูกต้อง บัญชีระบุพยานดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมายไม่ทำให้จำเลยเสียหายและไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแต่อย่างใด
สัญญาประนีประนอมยอมความ มีข้อตกลงแต่เพียงจะให้รังวัดหาแนวเขตที่แท้จริงแต่โฉนดที่ดินของโจทก์จำเลยเป็นโฉนดแบบเก่า ไม่สามารถปูโฉนดได้ ข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจึงเป็นข้อตกลงที่ปฏิบัติไม่ได้ จึงต้องถือแนวเขตตามที่ปกครองกันมา

ย่อยาว

โจทก์จำเลยมีเรื่องพิพาทกันเกี่ยวกับแนวเขตที่ดิน ต่อมาจำเลยกับโจทก์ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า โจทก์จำเลยตกลงให้ช่างรังวัดสำนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีวัดสอบเขตโดยรังวัดจากทางปลายของโฉนดมาหาเขตติดต่อเพื่อหาเขตแดนที่ถูกต้อง ถ้าที่ดินขาดหรือเกินโฉนดก็ให้แบ่งกันคนละครึ่งตามส่วนที่ขาดเกินโดยไม่เรียกร้องค่าเสียหายต่อกัน ต่อมาโจทก์ได้ยื่นคำร้องให้ช่างรังวัดไปทำการรังวัดแต่รังวัดไม่ได้เพราะน้ำท่วม ต่อมาโจทก์นำช่างรังวัดมาทำการรังวัดอีก จำเลยกลับปฏิเสธไม่ยอมนำช่างรังวัดและรับรองแนวเขต และโต้แย้งว่าที่ดินบางส่วนของโจทก์เป็นของจำเลย ขอให้ศาลพิพากษาบังคับขับไล่จำเลยออกไป

จำเลยให้การว่าที่ดินที่โจทก์ว่าจำเลยรุกล้ำเป็นของจำเลย จำเลยครอบครองมา 30 ปีแล้ว รูปแผนที่ในโฉนดเป็นแผนที่แบบเก่า โจทก์อ้างว่าโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน เพื่อตกลงแบ่งปันแนวเขตที่ขาดเกิน ข้อพิพาทเดิม ย่อมระงับ เมื่อโจทก์ฟ้องบังคับตามสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เหตุที่ไม่มีการรังวัดสอบเขตเพราะช่างรังวัดไม่สามารถปูแนวเขตตามรูปแผนที่หลังโฉนดได้ จึงต้องถือแนวเขตตามที่ปกครองกันมาแต่เดิม

ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารห้ามเกี่ยวข้องอีกต่อไป

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า บัญชีระบุพยานของโจทก์ไม่ได้ลงชื่อผู้ระบุพยานเป็นบัญชีระบุพยานที่ไม่ชอบ และฎีกาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะโจทก์ไม่ฟ้องบังคับตามสัญญาประนีประนอมยอมความ

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน และได้ทำการสืบพยานจำเลยเสร็จสิ้นแล้ว ศาลนัดสืบพยานโจทก์ นัดแรกเลื่อนไป ต่อมาในการนัดสืบพยานโจทก์นัดที่สองความจึงปรากฏว่าบัญชีระบุพยานของโจทก์ไม่มีลายมือชื่อผู้ระบุพยานเพราะทนายคนเดิมของโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานดังกล่าวไว้ แต่ด้วยความพลั้งเผลอไม่ได้ลงชื่อ ดังนี้กรณีเป็นเรื่องที่ทนายโจทก์คนเดิมได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้โดยชอบเพียงแต่พลั้งเผลอไม่ได้ลงลายมือชื่อ โจทก์ทราบจึงขอแก้ไขให้ถูกต้อง บัญชีระบุพยานดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมาย ไม่ทำให้จำเลยเสียหายและไม่ฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแต่อย่างใด

ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะโจทก์ไม่ฟ้องตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์จำเลยเป็นเพียงแต่จะให้รังวัดหาแนวเขตที่แท้จริงโดยช่างรังวัดของสำนักงานที่ดิน แต่โฉนดที่ดินโจทก์จำเลยเป็นโฉนดแบบเก่าจึงปูโฉนดไม่ได้ ข้อตกลงตามสัญญาประนีประนอมยอมความจึงปฏิบัติไม่ได้ ซึ่งในคำให้การจำเลยตอนท้ายก็รับรองแล้วว่าช่างรังวัดไม่สามารถปูแนวเขตตามรูปแผนที่หลังโฉนดของโจทก์จำเลยได้ จึงต้องถือแนวเขตตามที่ปกครองกันมา โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

พิพากษายืน

Share