แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บิดาผู้แทนโดยชอบธรรมของ ว. ผู้ตาย เป็นโจทก์ฟ้องว่าจำเลยขับรถยนต์โดยประมาทชนรถจักรยานยนต์ซึ่ง ว. ขับขี่ และมี ป. นั่งซ้อนท้ายเป็นเหตุให้ ว. ถึงแก่ความตาย และ ป.บาดเจ็บสาหัส ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกและประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 300, 390 ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีนี้รวมกับคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดอย่างเดียวกัน แล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์คดีนี้อุทธรณ์ ดังนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่า เหตุที่รถชนกันเกิดจากความประมาทของจำเลยฝ่ายเดียว แต่โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายในความผิดต่อพระราชบัญญัติจราจรทางบก จึงไม่มีอำนาจฟ้องก็จะพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 300, 390 แล้วปรับบทลงโทษจำเลยตามมาตรา 291ซึ่งเป็นบทหนักไม่ได้ เพราะโจทก์มิใช่ผู้จัดการแทนผู้เสียหายในความผิดที่จำเลยกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ ป. ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 291 บทเดียว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมของนายวิทูรย์ขจรภัย ผู้ตาย จำเลยขับรถยนต์โดยประมาทชนรถจักรยานยนต์ซึ่งนายวิทูรย์ ขจรภัย ขับขี่ และมีนายประทีป ฤทธิ์ธาดา นั่งซ้อนท้ายเป็นเหตุให้นายวิทูรย์ถึงแก่ความตาย นายประทีปได้รับบาดเจ็บสาหัส ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 300, 390
ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีนี้รวมกับคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดอย่างเดียวกัน
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า เหตุที่รถชนกันเกิดจากความประมาทของผู้ตายฝ่ายเดียว พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์ในคดีนี้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เหตุที่รถชนกันเกิดจากความประมาทของจำเลยฝ่ายเดียว แต่ข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติจราจรทางบก โจทก์มิใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 300, 390 แต่ให้ลงโทษตามมาตรา 291 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุกจำเลย 5 ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์มาถึงสี่แยกที่เกิดเหตุก่อนรถยนต์ที่จำเลยขับ และรถของผู้ตายได้แล่นเลยเส้นกึ่งกลางถนนที่จำเลยขับรถยนต์มา แต่รถจำเลยแล่นเร็วมาก ทั้ง ๆที่ได้ห้ามล้อแล้วยังแล่นชนรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย กรณีจึงไม่อยู่ในบังคับของบทบัญญัติที่รถทางโทจะต้องหยุดให้รถทางเอกไปก่อนศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลย ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 300, 390 แล้วปรับบทลงโทษจำเลยตามมาตรา 291 ซึ่งเป็นบทหนักนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย เพราะโจทก์คดีนี้มิใช่ผู้จัดการแทนผู้เสียหายในความผิดที่จำเลยกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้นายประทีป ฤทธิ์ธาดา ได้รับบาดเจ็บสาหัส
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 บทเดียว นอกจากที่แก้นี้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์