คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1407/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บัญชีเครือญาติและมรณบัตร ไม่ใช่เอกสารที่กฎหมายบังคับให้ต้องแนบมาพร้อมคำฟ้องขอให้ถอนผู้จัดการมรดก
บัญชีทรัพย์มรดกในคดีที่จำเลยร้องขอให้เป็นผู้จัดการมรดกไม่ถือเป็นบัญชีทรัพย์มรดกที่ผู้จัดการมรดกต้องจัดทำหลังจากรับหน้าที่เป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1728และ 1729
จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า โจทก์ที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้จัดการมรดก โดยมิได้ให้การต่อสู้แต่ในศาลชั้นต้นว่าโจทก์ที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 เป็นบุคคลที่ต้องห้ามตามกฎหมาย มิให้เป็นผู้จัดการมรดก และไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้จัดการมรดกแต่อย่างใด ข้อฎีกาของจำเลยที่ 4 จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.(ที่มา-เนติ)

ย่อยาว

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ถอนจำเลยทั้งสองจากการเป็นผู้จัดการมรดกของ ศ. จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ‘ที่จำเลยที่ 2 ฎีกาข้อแรกว่าฟ้องโจทก์ไม่แนบบัญชีเครือญาติและมรณบัตรของผู้ตายมาท้ายฟ้องเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เห็นว่า ฟ้องโจทก์บรรยายแจ้งชัดว่าโจทก์ทั้งสี่และจำเลยทั้งสองเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกับนางสาวศิริพร แซ่ตั้งผู้ตายผู้ตายถูกคนร้ายฆ่าตายเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2520 และไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้มรดกของผู้ตายตกแก่ทายาทคือพี่น้องที่ยังมีชีวิต 6 คนตามบัญชีรายชื่อผู้รับมรดกเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 9 บัญชีเครือญาติและมรณบัตรไม่ใช่เอกสารที่กฎหมายบังคับให้ต้องแนบมาพร้อมคำฟ้องจึงอาจส่งเป็นพยานต่อศาลในขั้นพิจารณาได้ฟ้องของโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยที่ 2 ฎีกาข้อต่อไปว่าจำเลยมิได้ละเลยในการทำหน้าที่ผู้จัดการมรดกและไม่มีเหตุที่จะถอนจำเลยออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกนั้นเห็นว่าจำเลยที่ 2 เบิกความรับว่าตั้งแต่เข้าจัดการมรดกจนกระทั่งโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองยังไม่ได้ทำบัญชีทรัพย์มรดกของผู้ตายให้ทายาททราบที่จำเลยที่ 2 อ้างในฎีกาว่าทรัพย์สินของผู้ตายได้แสดงในบัญชีทรัพย์มรดกคดีเดิมคือคดีที่ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกแล้วเห็นว่าบัญชีทรัพย์มรดกดังกล่าวนั้นมิใช่บัญชีทรัพย์มรดกที่ผู้จัดการมรดกจะต้องลงมือจัดทำให้แล้วเสร็จภายหลังที่ได้รับหน้าที่เป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1728, 1729 ที่จำเลยที่ 2 ฎีกาข้อสุดท้ายว่าโจทก์ที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายนั้นจำเลยที่ 2 มิได้ให้การต่อสู้ว่าโจทก์ที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 เป็นบุคคลที่ต้องห้ามตามกฎหมายมิให้เป็นผู้จัดการมรดกและไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายแต่อย่างใดจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายืนค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share