คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1407/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์มรดกผู้ตาย ระหว่างศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาศาลอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเป็นโจทก์ร่วมขณะคดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ โจทก์จำเลยตกลงประมูลเก็บผลประโยชน์ทรัพย์มรดกพิพาท ผู้ใดประมูลได้ ให้วางเงินต่อศาลทุกเดือนจนกว่าคดีถึงที่สุด โจทก์ที่ 2 ประมูลได้ จึงวางเงินต่อศาลทุกเดือน เมื่อศาลฎีกาพิพากษาให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยให้แบ่งทรัพย์มรดกของผู้ตายแก่ทายาท โจทก์ร่วมมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งตามคำพิพากษาด้วย โจทก์ร่วมย่อมมีสิทธิร้องขอบังคับคดี โดยให้โจทก์ที่ 2 นำเงินค่าผลประโยชน์ดังกล่าวมาวางศาลได้

ย่อยาว

เดิม โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์มรดกของนายหลำ ระหว่างศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณา ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องทั้งสองเข้าเป็นโจทก์ร่วม ขณะคดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ โจทก์จำเลยได้ตกลงประมูลการเก็บผลประโยชน์ ทรัพย์พิพาทและตกลงกันว่าผู้ใดประมูลได้ให้วางเงินต่อศาลทุกเดือน เพียงครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ประมูลจนกว่าคดีจะถึงที่สุด โจทก์ที่ 2 ประมูลได้ในราคาเดือนละ 950 บาท จึงต้องวางเงินต่อศาลเดือนละ 475 บาท ต่อมาศาลฎีกาพิพากษาให้แบ่งทรัพย์มรดกของนายหลำให้แก่ทายาท ศาลชั้นต้นดำเนินการบังคับคดีและให้จ่าศาลคิดแบ่งเงินผลประโยชน์ให้แก่โจทก์จำเลยตามส่วนที่ควรจะได้ เป็นเงินผลประโยชน์ 24 เดือน 22,800 บาท ฝ่ายโจทก์ควรได้ 15,048 บาท จำเลยควรได้ 7,752 บาท แต่โจทก์ที่ 2 นำเงินวางศาลเพียง 11,000 บาท เมื่อจ่ายให้จำเลยเสีย 7,752 บาท คงเหลือเงิน 3,648 บาท ซึ่งจะต้องคืนให้โจทก์

โจทก์ร่วมทั้งสองยื่นคำร้องว่า เงินผลประโยชน์ดังกล่าวโจทก์ร่วมมีสิทธิจะได้รับส่วนแบ่งเป็นเงิน 6,019 บาท 20 สตางค์ขอให้ศาลสั่งให้โจทก์ที่ 2 นำเงินผลประโยชน์ที่โจทก์ที่ 2 ยังวางไม่ครบมาวางศาลเพื่อแบ่งให้โจทก์ร่วมต่อไป

โจทก์ที่ 2 ค้านว่า โจทก์ร่วมหามีข้อพิพาทใด ๆ กับโจทก์ไม่หากโจทก์ร่วมจะโต้แย้งสิทธิกับโจทก์ประการใด ก็ชอบที่จะดำเนินคดีกับโจทก์ต่อไปต่างหาก ทั้งจำนวนเงินที่โจทก์ร่วมอ้างว่ามีสิทธิก็ยังไม่เป็นที่รับกันแน่นอน

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์ร่วมมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งในเงินผลประโยชน์ 2 ใน 5 ส่วนจากเงิน 15,048 บาท และมีสิทธิขอให้บังคับคดี

โจทก์ที่ 2 อุทธรณ์ว่า โจทก์ร่วมเป็นบุคคลภายนอก จะขอให้ศาลบังคับคดีอย่างใดก็ต้องดำเนินคดีต่างหาก ไม่มีอำนาจขอให้ศาลสั่งโจทก์นำเงินมาวางศาล

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ศาลฎีกาพิพากษาให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยให้แบ่งทรัพย์มรดกของนายหลำให้แก่ทายาทของนายหลำซึ่งโจทก์ร่วมมีสิทธิได้คนละ 1 ส่วน เงินผลประโยชน์ในทรัพย์พิพาทจำนวน 15,048 บาท จึงตกเป็นมรดกของผู้ตายซึ่งจะต้องแบ่งกันเมื่อคดีถึงที่สุดและคิดแล้วปรากฏว่า โจทก์ยังวางเงินผลประโยชน์ไม่พอจำนวนที่ศาลจะจัดแบ่งให้แก่ทายาทของผู้ตายตามคำพิพากษาศาลฎีกาและโจทก์ร่วมทั้งสองเป็นผู้มีสิทธิจะได้รับส่วนแบ่งด้วย โจทก์ร่วมย่อมมีสิทธิร้องขอบังคับคดีโดยให้โจทก์ที่ 2 นำเงินค่าผลประโยชน์ดังกล่าวมาวางศาลได้

พิพากษายืน

Share