แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เสียหายให้จำเลยกู้ยืมเงิน 10,000 บาท โดยจำเลยมิได้ทำหลักฐานแห่งการกู้เป็นหนังสือให้ไว้นั้น เป็นการยืมเงินเกิน 50 บาท โดยมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ ซึ่งต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องบังคับคดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653
ฉะนั้น ผู้เสียหายจึงไม่อาจใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลกับจำเลยได้ตามความในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ยืมเงินนายกวางมุ้ย แซ่ลิ้ม ไปจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาทและจำเลยยอมตกลงให้นายกวางมุ้ยผู้เป็นเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้เงินที่จำเลยยืมไปโดยให้นายกวางมุ้ยตวงข้าวเปลือกของจำเลยแทนเงินยืมจนครบกำหนดจำนวนที่จำเลยยืม แต่แล้วจำเลยโอนข้าวเปลือกที่ตกลงชำระหนี้นั้นให้แก่ผู้อื่น ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๐ และคืนหรือใช้เงิน ๑๐,๐๐๐ บาทแก่เจ้าทรัพย์
จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กู้ยืมเงินนายกวางมุ้ย
ศาลชั้นต้นฟังว่า เป็นการผิดสัญญาซึ่งเป็นมูลกรณีทางแพ่ง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์ข้อความตามคำบรรยายฟ้องเห็นว่า เป็นการทำสัญญากู้และสัญญาชำระเงินคืน มิใช่เป็นสัญญาต่างตอบแทนดังโจทก์ฎีกา เมื่อจำเลยมิได้ทำหนังสือหลักฐานแห่งการกู้ยืมให้ไว้ จึงเป็นการยืมเงินเกิน ๕๐ บาท โดยมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๓ นายกวางมุ้ย จึงไม่อาจใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลได้ตามความหมายแห่งบทบัญญัติในประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๐
พิพากษายืน