คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1402/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่พิพาทและให้ส่งกระบือให้โจทก์เมื่อทางพิจารณาฟังได้ว่าที่พิพาทเป็นมรดกตกแก่โจทก์จำเลย ศาลย่อมพิพากษาให้แบ่งมรดกนั้นได้
บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้ว ย่อมมีสิทธิรับมรดกของบิดาได้โดยไม่ต้องจดทะเบียนรับรองบุตร และไม่จำต้องขอให้ศาลสั่งแสดงว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายเสียก่อน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบุตรซึ่งนายอ้วนรับรองเป็นบุตรตามกฎหมายแล้ว เมื่อนายอ้วนบิดาโจทก์ถึงแก่กรรม มีทรัพย์ร่วมกับมารดาโจทก์เป็นมรดกตามบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้อง โจทก์เป็นทายาทมีสิทธิได้รับมรดกของนายอ้วน จำเลยไม่ใช่ทายาท ไม่มีสิทธิรับมรดกผู้ตายได้ร่วมกันเอากระบือ 4 ตัวไปจากโจทก์ เอาลูกกระบือไปขายเสีย 1 ตัวและจำเลยขับไล่โจทก์ออกจากเรือน แล้วเข้าไปทำนาของโจทก์ ขอให้พิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากเรือนและที่นา ให้จำเลยส่งกระบือ 3 ตัว ใช้ค่าลูกกระบือ 1 ตัว และค่าข้าวเปลือกที่โจทก์ไม่ได้ทำนาปีละ 150 ถัง ราคา 1,500 บาท จนกว่าคดีถึงที่สุด

จำเลยทั้งสามให้การว่า จำเลยที่ 2 เป็นบุตรนายอ้วน นางมี นา 2 แปลงตามบัญชีทรัพย์อันดับ 2, 3 เป็นของจำเลยที่ 2 ได้มาจากทรัพย์อันเป็นมรดกของนางมีมารดาจำเลยที่ 2 กระบือ 4 ตัว ที่ดินและเรือน 1 หลัง เป็นของจำเลยที่ 2 ซื้อมา จำเลยที่ 1 และที่ 3 ไม่ได้บุกรุกแย่งที่นาโจทก์ ไม่ได้เอากระบือไป ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นเชื่อว่าที่ดินปลูกบ้านและเรือนเป็นมรดกของนายอ้วนนา 2 แปลง นายอ้วนมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมกับจำเลยที่ 2 เมื่อนายอ้วนตาย ส่วนของนายอ้วนจึงตกเป็นมรดกแก่ทายาท ส่วนกระบือ 4 ตัว ตายไป 1 ตัว ที่เหลือ 3 ตัวเป็นของจำเลยที่ 2 โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่ส่งทรัพย์คืน และใช้ค่าเสียหาย สำหรับเรื่องให้ขับไล่จำเลยออกจากเรือนและที่นาพิพาทนั้น เมื่อฟังว่าจำเลยที่ 2 เป็นทายาทของนายอ้วนด้วย ย่อมมีสิทธิมีส่วนในทรัพย์นั้น จึงขับไล่ไม่ได้กระบือเป็นของจำเลยที่ 2 ไม่ต้องคืน ค่าเสียหายโจทก์ไม่มีสิทธิเรียก พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า ให้แบ่งที่ปลูกบ้านกับบ้านและที่นาครึ่งหนึ่งซึ่งเป็นทรัพย์มรดกพิพาทออกเป็น 6 ส่วน ให้โจทก์ทั้งห้าคนและจำเลยที่ 2 ได้คนละ 1 ส่วน ถ้าไม่ตกลงกัน ก็ให้แบ่งทางประมูลหรือขายทอดตลาด นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้องโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาเห็นว่า แม้คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่พิพาท และให้ส่งมอบกระบือให้โจทก์ เมื่อทางพิจารณาฟังได้ว่าที่พิพาทเป็นมรดกตกแก่โจทก์จำเลย ก็ชอบที่ศาลจะพิพากษาให้แบ่งมรดกนั้นได้ เมื่อโจทก์ทั้งห้าคนเป็นบุตรนายอ้วนอันเกิดจากนางพิมพ์โดยไม่จดทะเบียนสมรส และฟังได้ว่านายอ้วนได้รับรองและแสดงออกว่าโจทก์ทั้งห้าคนเป็นบุตรของตน โจทก์ทั้งห้าคนจึงเป็นทายาทโดยธรรมและมีสิทธิรับมรดกของนายอ้วนโดยไม่ต้องจดทะเบียนรับรองและไม่จำต้องขอให้ศาลสั่งแสดงว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายอ้วนเสียก่อน (อ้างฎีกาที่ 204/2500) ศาลอุทธรณ์พิพากษาแบ่งทรัพย์มรดกให้โจทก์ทั้งห้าคน ไม่เป็นการนอกฟ้อง

พิพากษายืน

Share